เมื่อวันที่ (11 ก.พ. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ Air4Thai ของกรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์และคุณภาพอากาศของไทย โดยเมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ ที่จุดตรวจวัด ตำบลนาจักร อำเภอเมือง จังหวัแพร่ วัดค่า PM2.5 ได้สูงถึง 102 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินจากค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร กว่า 1 เท่า
ส่วนในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น วันนี้ ค่า PM2.5 ลดลงมาจากเมื่อวาน เล็กน้อย แต่ก็ยังเกินค่ามาตรฐานในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยวันนี้ วัดค่า PM2.5 ได้ 89 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งยังต้องเฝ้าระวังต่อเนื่องเพราะหากดูค่า PM2.5 ย้อนหลังจะพบว่าเกินมาตรฐานไปอยู่ในโซนแดงต่อเนื่องมาแล้ว 4 วัน โดยค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ระหว่าง 93-104 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ที่จังหวัดลำปางก็เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่พบค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานในระดับ "เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ" โดยวันนี้ จุดตรวจวัด 4 จุด ในอำเภอแม่เมาะ และอำเภอเมือง พบค่าฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐานทุกจุด
ขณะที่เว็บไซต์ AirVisual รายงานดัชนีคุณภาพอากาศตามมาตรฐาน US AQI พบว่า เมื่อเวลา 10.00 น. มีหลายพื้นที่ทางภาคอีสานและภาคเหนือติดอันดับพื้นที่ที่มีค่าคุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพของประเทศไทย อันดับหนึ่ง ได้แก่ จังหวัดแพร่ รองลงมาคือ ขอนแก่น, ลำปาง, เลย และอำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก
เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โพสต์ข้อความระบุว่า "จุความร้อนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในภาคเหนือประเทศไทย" วิกฤตหมอกควันจากการชิงเผา ทำให้เกิดผลกระทบไปบ้างแล้วในบางพื้นที่ โดยจะมีค่า PM2.5 เกินมาตรฐาน (50 ug/m3) เกินกว่า 3 วันติดกัน แผนภาพจำลองจุดความร้อน กลุ่มหมอกควัน และกระแสลม จากดาวเทียม NOAA (www.asmc.asean.org) แสดงให้เห็นถึงจุดความร้อนที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นในภาคเหนือ
จากข้อมูลเครื่องวัดฝุ่นขนาดเล็ก DustBoy แสดงค่าเฉลี่ยรายชั่วโมงเมื่อเวลา 08.30 น. มีหลายพื้นที่ที่คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น ในจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ สารภี ฮอด และกองแขก ส่วนจังหวัดอื่นๆ ได้แก่ ลำพูน (อ.เมือง) และ แพร่ (อ.ลอง และ อ.ร้องกวาง) ประชาชนในพื้นที่วิกฤตหมอกควัน ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมภายนอกอาคาร กลุ่มเสี่ยงให้ดูแลสุขภาพอย่างใกล้ชิด
ส่วน เทศบาลนครนครราชสีมา เจ้าหน้าที่เปิดเครื่องพ่นละอองน้ำที่ติดตั้งไว้บนเสาเหล็กสูงกว่า 5 เมตร จำนวน 7 ต้น บริเวณหน้าลานอนุสาวรีย์ย่าโม พร้อมกับเปิดน้ำออกตามท่อขนาดเล็ก ที่ติดตั้งตามเสาไฟฟ้า เพื่อให้เกิดละอองน้ำไปทั่วบริเวณเพื่อช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 และPM2.5 ในพื้นที่รอบลานอนุสาวรีย์ย่าโม
นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา เปิดเผยว่า ในพื้นที่ จังหวัดนครราชสีมามีการตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กพบค่าฝุ่นละอองขนาด PM10 และ PM 2.5 ไม่เกินมาตรฐาน แต่ทางเทศบาลนครนครราชสีมาก็ไม่นิ่งนอนใจ ออกรณรงค์จัดกิจกรรมหลายอย่างเพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากจุดนี้แล้ว เจ้าหน้าที่จะเริ่มติดตั้งเครื่องพ่นละอองน้ำในอีกหลายจุด เช่น รอบคูเมืองทั้ง 4 มุม ใต้สะพานลอยตั้งแต่หน้าห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์นครราชสีมา ไปจนถึงหน้าโรงเรียนสุรนารี ซึ่งเป็นจุดที่มีการจราจรแออัด รวมระยะทางยาวกว่า 6 กิโลเมตร โดยคาดว่าจะติดตั้งเสร็จและเริ่มพ่นละอองน้ำได้ภายในสัปดาห์นี้
ขณะที่ สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมื่อเช้าวันนี้ ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ทุกพื้นที่ ซึ่งจากแบบจำลองการคาดการณ์ปริมาณ PM2.5 ของกรมควบคุมมลพิษคาดว่าในวันพรุ่งนี้ปริมาณ PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแต่เชื่อว่ายังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน