วันนี้ 18 ก.พ. 2562 นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพีของไทย ในไตรมาส 4 ของปี 2561 ที่ผ่านมา เติบโตที่ระดับ 3.7 % จาก ไตรมาส 3 อยู่ที่ 3.2 % ช่วยดันให้ จีดีพี ปี 2561 ขยายตัวอยู่ที่ 4.1 % สูงที่สุดในรอบ 6 ปี แสดงให้เห็นถึงความเติบโตทางเศรษฐกิจโดยปัจจัยบวกหลักๆ จากการบริโภคภาคเอกชนดีขึ้น และ การท่องเที่ยวที่เริ่มจะกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ ส่วนปัจจัยที่ต้องเพิ่มแรงขับ คือ การใช้จ่ายภาครัฐและการส่งออก ที่ยังเติบโตได้อีก
ขณะที่แนวโน้มจีดีพีของไทย ในปี 2562 คาดว่าจะขยายตัวในระดับ 3.5 - 4.5 % หรือ ประมาณ 4 % โดยมีปัจจัยบวกหลักๆ จากการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง การปรับตัวที่ดีขึ้นของการลงทุนภาคเอกชน และการเร่งของการลงทุนภาครัฐ
ส่วนปัจจัยเสี่ยง คือ ผลของสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐอเมริกา และ การเลือกตั้งของไทย ในวันที่ 24 มี.ค.นี้ ที่จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนมากขึ้น และ ทำให้ช่วง ไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ สศช. ก็อาจจะมีการปรับประมาณการณ์ภาวะเศรษฐกิจอีกครั้ง
สำหรับการบริหารนโยบายเศรษฐกิจที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญในปีนี้ เพื่อให้ผลักดันจีดีพีโตในฐาน 4 % คือ การส่งออก ทุกภาคส่วนต้องผลักดันให้โตได้ไม่น้อยกว่า 5% โดยกระทรวงพาณิชย์ต้องเร่งหาตลาดส่งออกใหม่ๆ รองลงมาคือ การท่องเที่ยว เป้านักท่องเที่ยวที่ 40 ล้านคน รายได้ประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท รวมถึงการส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชน และ การใช้จ่ายของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ที่ต้องมีการเบิกจ่ายในระดับ70-80% ของงบประมาณที่ตั้งไว้ ซึ่งหากผลักได้ครบ จะทำให้เศรษฐกิจไทยในช่วง ไตรมาส 3 และ 4 ชัดเจนขึ้น
