สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โศกนาฏกรรมเครื่องบินโดยสารตกที่ประเทศเอธิโอเปีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตยกลำ 157 คน ได้ปลุกกระแสความไม่มั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัยของเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 อีกครั้ง หลังก่อนหน้านี้ เมื่อปลายปีที่แล้ว เคยเกิดเหตุสลดมาแล้วครั้งหนึ่งกับเครื่องบินรุ่นเดียวกันนี้ จากสายการบินไลออนแอร์ ที่ประเทศอินโดนีเซีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 190 คน
โดยจนถึงขณะนี้ มีสายการบินหลายสัญชาติ เช่น เอธิโอเปีย จีน อินโดนีเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ บราซิล มองโกเลีย และเม็กซิโก ที่ประกาศระงับการใช้งานเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 เป็นการชั่วคราว เช่นเดียวกับสหภาพแรงงานนักบินอาร์เจนตินา ที่แสดงจุดยืนไม่ให้สมาชิกปฏิบัติหน้าที่บนเครื่องบินโดยสารรุ่นนี้ จนกว่าจะได้รับการยืนยันเรื่องความปลอดภัย
ล่าสุด กระทรวงคมนาคมสหรัฐอเมริกา ได้มอบหมายให้สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ หรือ เอฟเอเอ เข้ามาดูแลเรื่องนี้ ซึ่งทางเอฟเอเอ ก็ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเชื่อมั่นว่า โบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 ยังเป็นอากาศยานที่เหมาะแก่การเดินทางทางอากาศ แต่หากพบความผิดปกติ ทางเอฟเอเอจะเร่งออกมาตรการที่เหมาะสมในทันที พร้อมกันนี้ เอฟเอเอยังได้สั่งการให้โบอิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิต เร่งปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่อง โดยเฉพาะเซ็นเซอร์ตรวจสอบมุมปะทะ ที่ช่วยในการรักษาสมดุลของเครื่องบินทั้งลำ
ด้านนาย เดนนิส มุยเลนเบิร์ก ซีอีโอของโบอิ้ง ออกมายืนยันเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของเครื่องบินทุกรุ่นในตระกูล 737 แม็กซ์ พร้อมแสดงความไว้วางใจในทีมงานทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกแบบและประกอบเครื่องบินรุ่นนี้ทุกลำ อย่างไรก็ตาม มุยเลนเบิร์กยอมรับว่าโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ ถือเป็นความท้าทายครั้งใหม่สำหรับบริษัท เนื่องจากเกิดขึ้นเพียง 5 เดือน หลังการตกของเครื่องบินโดยสารไลออนแอร์ ที่อินโดนีเซีย
นอกจากนี้วิกฤตความเชื่อมั่นของบริษัทโบอิ้ง ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทตกลงไปมากถึง 12.9 เปอร์เซ็นต์ในช่วงหนึ่งของการซื้อขายเมื่อวานนี้ ก่อนจะปิดตลาดร่วงมากกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ ส่วนความคืบหน้าปฏิบัติการค้นหากู้ภัยในจุดเกิดเหตุที่เอธิโอเปีย ล่าสุด ทีมงานสามารถเก็บกู้กล่องดำทั้ง 2 กล่อง ได้แก่ กล่องบันทึกข้อมูลการบินและกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบิน โดยเตรียมจะนำไปวิเคราะห์เพื่อไขปริศนาการตกต่อไป
รูปภาพ : ISSOUF SANOGO / AFP
