สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ยังอยู่ในภาวะวิกฤต เว็บไซต์ AirVisual พบดัชนีคุณภาพอากาศที่เชียงใหม่ติดอันดับ 1 เมืองอากาศแย่ ติดต่อกันเป็นวันที่ 3

วันนี้ (13 มี.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ AirVisual รายงานสภาพอากาศในจังหวัดเชียงใหม่เช้าวันนี้ อยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก (Very UnHealthy) หรือ โซนสีม่วง พร้อมสัญลักษณ์คนสวมหน้ากากป้องกัน หลังดัชนีคุณภาพอากาศสูงถึง 232 ยูเอสเอคิวไอ (US AQI) ส่วนค่าฝุ่น PM 2.5 วัดได้ 181.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก ติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ต่อมาในช่วงบ่ายอันดับตกลงมาอยู่ที่ 2 ของเมืองที่มีคุณภาพอากาศแย่ โดยดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 182 ยูเอสเอคิวไอ (US AQI) ซึ่งอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ (UnHealthy)ส่วนฝุ่น PM 2.5 วัดค่าได้ 115.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
“เชียงใหม่” ขึ้นอันดับ 1 เมืองอากาศแย่
นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ออกมาชี้แจงทำความเข้าใจ สถานการณ์คุณภาพอากาศในจังหวัด โดยระบุว่า ที่ผ่านมาได้ระดมกำลังจากทุกฝ่ายเพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่น หมอกควันที่เกิดขึ้น และคาดว่าอีก 3 วันอากาศจะลอยตัวสถานการณ์จะดีขึ้น
โดยต่อมา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ และเครื่องมือต่าง ๆ มาที่บริเวณประตูท่าแพ เมืองเชียงใหม่ เพื่อปล่อยแถวปฏิบัติการฉีดพ่นละอองน้ำรอบตัวเมืองเชียงใหม่ และจุดต่าง ๆ ในพื้นที่เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ บรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ปัญหาหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงเกินค่ามาตรฐาน ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้เป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากที่ประชาชนชาวเชียงใหม่และโซเชียลมีเดีย เรียกร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งแก้ไขปัญหาคุณภาพอากาศที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมาแล้วหลายวัน
ด้าน นายศุภชัย ยืนยันว่า ตลอดช่วงที่ผ่านมาทางจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวดำเนินมาตรฐานต่าง ๆ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจระดับหนึ่ง จนกระทั่งสถานการณ์กลับมารุนแรงในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา พร้อมย้ำว่าตนเองไม่ได้หายไปไหนและทำงานแก้ไขปัญหาอยู่ตลอด และไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองใด ๆ กรณีที่มีผู้โพสต์ตามหาตัว และรู้สึกขอบคุณที่สะท้อนความรู้สึกและความต้องการออกมา
7 ล้านคนทั่วโลกตายเพราะ"พิษฝุ่นละออง"ทุกปี
ขณะที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนากฎหมาย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก เรียกร้องให้มหาวิทยาลัย ซึ่งมีคณะวิทยาศาสตร์สุขภาพที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตระหนักถึงผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพ และเร่งออกมาตรการเร่งด่วนออกมา เช่น สั่งหยุดก่อสร้าง หรือประกาศหยุดการเรียนการสอนในช่วงที่สถานการณ์ฝุ่นรุนแรง ไม่ใช่นิ่งเฉยต่อสถานการณ์ฝุ่นที่อยู่ในระดับเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ทั้งนี้ล่าสุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประกาศงดการเรียนการสอนและมาตรการสืบเนื่องจากสถานการณ์หมอกควัน โดยให้งดการเรียนการสอนระหว่างวันที่ 14-15 มีนาคมนี้ หากส่วนใดงดการเรียนการสอนไม่ได้ให้จัดให้มีมาตรการป้องกันสุขภาพ นอกจากนี้ยังสั่งงดใช้พื้นที่โล่งแจ้ง และบุคลากรที่ได้รับผลกระทบลาดหยุดงานได้เป็นกรณีพิเศษ
อย่างไรก็ตามไม่เพียงแค่จังหวัดเชียงใหม่เท่านั้นที่กำลังเผชิญกับวิกฤตหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐาน แต่ยังมีหลายพื้นที่ตามจังหวัดทางภาคเหนือที่ประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ โดย เว็บไซต์ Air4Thai กรมควบคุมมลพิษรายงานคุณภาพอากาศ 9 จังหวัดภาคเหนือ เฉลี่ย 24 ชั่วโมงเมื่อเวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา พบ 8 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน น่าน แพร่ พะเยา รวมทั้งเชียงใหม่ มีค่าคุณภาพอากาศเกินมาตรฐานในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ หรืออยู่ในโซนสีแดง โดยค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานมากที่สุดอยู่ในพื้นที่ ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย วัดค่าได้สูงถึง 167 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> www.pptvhd36.com/tags/ข่าววันนี้