ชมรถคันจริง ! ฟอร์ด 3 รุ่น เจเนอเรชั่นใหม่ ครั้งแรกในประเทศไทย ที่งานมอเตอร์โชว์ 2022
เปิดราคาเริ่มต้น 929,000 - 1,869,000 บาท ปรับดีไซน์-เครื่องยนต์ใหม่ทั้งหมด
ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดตัว ฟอร์ด เจนเนอเรชั่น ใหม่ 3 รุ่น ได้แก่ ฟอร์ด เรนเจอร์ (Ford Ranger), ฟอร์ด เอเวอเรสต์ (Ford Everest) และ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ พร้อมประกาศราคาครั้งแรกในประเทศไทย ภายในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43
ฟอร์ด เรนเจอร์ ลดราคา 1 แสนบาท เตรียมเปิด 3 รุ่นใหม่ใน มอเตอร์โชว์
ยลโฉม Ford Everest ใหม่ อัดแน่นเทคโนโลยี-ใหญ่ขึ้นทุกมิติ
ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ ก้าวข้ามขีดจำกัดของการออกแบบภายนอกแบบเดิมๆ ด้วยกระจังหน้าโฉมใหม่อันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และไฟหน้าใหม่รูปตัว C และเป็นครั้งแรกที่ฟอร์ดมาพร้อมไฟหน้าแบบเมทริกซ์ แอลอีดี และบันไดเหยียบข้างกระบะท้ายบริเวณด้านหลังล้อหลัง
ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 ตัวเลือก ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบคู่ 2.0 ลิตร หรือเทอร์โบเดี่ยว 2.0 ลิตร ทำงานคู่กับเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และตัวเลือกเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ด้วยโครงสร้างและกันชนแข็งแกร่ง บนฐานล้อที่มีความยาวและความกว้างเพิ่มขึ้นอีก 50 มิลลิเมตร
ภายในห้องโดยสารได้รับการปรับโฉมใหม่ มาพร้อมเทคโนโลยีและฟังก์ชันการใช้งานที่ดียิ่งขึ้น ตกแต่งด้วยวัสดุที่หรูหรา พร้อมระบบเชื่อมต่อการสื่อสารผ่านหน้าจอสัมผัสแนวตั้งขนาด 10.1 หรือ 12 นิ้ว ที่เชื่อมกับกล้อง 360 องศา รวมถึงระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A® ซึ่งเป็นระบบความบันเทิงรุ่นล่าสุดของฟอร์ด และแผงหน้าปัดดิจิทัลใหม่ที่แสดงผลข้อมูลเกี่ยวกับรถอย่างเต็มรูปแบบ
ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ มีให้เลือก 2 รุ่นด้วยกันได้แก่
- ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นสปอร์ต ราคาเริ่มต้น 929,000 บาท
- ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นไวลด์แทรค ราคาเริ่มต้น 999,000 บาท
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ รถยนต์อเนกประสงค์ที่ถูกออกแบบเพื่อการผจญภัยและความสะดวกสบาย ภายนอกมาพร้อมการออกแบบที่สมบุกสมบัน โดยที่ยังคงความเรียบหรู ระยะฐานล้อที่กว้างขึ้น 50 มิลลิเมตร และระยะระหว่างล้อหน้าและหลังที่เพิ่มขึ้น ดูล้ำสมัยและบึกบึนกว่าเดิม พร้อมปรับแต่งโช้คอัพใหม่
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ มาพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว หรือเทอร์โบคู่ ทำงานร่วมกันกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด
ภายในห้องโดยสาร มีแผงหน้าปัดดิจิทัลและคอนโซลกลางวางเต็มความกว้างของพื้นที่ พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมายอาทิ แท่นชาร์จแบบไร้สาย และระบบเบรกมือไฟฟ้า เบาะนั่งแถวที่ 2 และ 3 ออกแบบมาให้พับได้ราบเพื่อการบรรทุกสัมภาระขนาดยาวได้
อีกทั้งหน้าจอระบบสัมผัสแนวตั้งความละเอียดสูงขนาดใหญ่ 10.1 หรือ 12 นิ้ว พร้อมแผงหน้าปัดดิจิทัล 8 หรือ 12.4 นิ้ว ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ ยังมาพร้อมระบบเชื่อมต่อการสื่อสาร SYNC 4A® เวอร์ชันล่าสุดของฟอร์ด รวมถึงการติดตั้งโมเด็มมาจากโรงงาน ทำให้ลูกค้าเชื่อมต่อกับรถได้ง่ายผ่านแอปพลิเคชันฟอร์ดพาส™
สำหรับเทคโนโลยีช่วยขับขี่เพื่อความปลอดภัยที่มีมาให้
- ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist) 2.0 ช่วยให้เข้าจอดแบบอัตโนมัติได้ทั้งการจอดขนานและถอยเข้าช่องจอด
- ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติใหม่จนกระทั่งรถหยุดนิ่ง (Adaptive Cruise Control with stop and go)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางผสานระบบตรวจจับขอบถนน ระบบช่วยหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ
- ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ มีให้เลือก 2 รุ่นด้วยกันได้แก่
- ฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่นสปอร์ต ราคาเริ่มต้น 1,464,000 บาท
- ฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่นไทเทเนียมพลัส ราคาเริ่มต้น 1,854,000 บาท
ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ ซึ่งเป็นรุ่นที่สองได้รับการออกแบบและพัฒนาโดยทีม ฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ ซึ่งอัดแน่นด้วยฟีเจอร์ใหม่เพื่อพิชิตทุกเส้นทางออฟโรด ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบคู่ 3.0 ลิตร EcoBoost V6 เป็นครั้งแรก ให้กำลังสูงสุด 397 แรงม้า ที่ 5,650 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 583 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบต่อนาที ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ที่ปรับจูนตามมาตรฐานของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ ระบบไอเสียแบบแปรผันควบคุมไฟฟ้าครั้งแรกในรถกระบะ ช่วยให้ผู้ขับขี่ตั้งค่าเสียงของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ได้ด้วยระดับความดัง 4 โหมด ได้แก่ โหมดเงียบ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต และโหมดบาฮา
ทีมฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ ยังร่วมมือกับ FOX™ ในการผสานการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในงานด้านวิศวกรรม และการทดสอบรถในสถานการณ์จริง เพื่อปรับแต่งการทำงานของสปริงไปจนถึงการกำหนดความสูง การปรับแต่งวาล์ว และการออกแบบระดับการยืด-ยุบของโช้ค เพื่อสร้างความสมดุลที่สมบูรณ์แบบ
ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ มาพร้อมระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งใหม่ด้วยโช้คอัพ FOX แบบไลฟ์ วาล์ว Internal Bypass ขนาด 2.5 นิ้ว ซึ่งล้ำสมัยที่สุดเท่าที่เคยใช้ในฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ด้วยความสามารถในการปรับการทํางานได้แบบเรียลไทม โดยใช้เซ็นเซอร์รอบคัน ทําให้โช้คปรับค่าความหน่วงจากจุดปะทะต่างๆ ได้มากถึง 500 ครั้งต่อวินาที
ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ มาพร้อม 7 โหมดการขับขี่ ประกอบด้วย โหมดปกติ โหมดสปอร์ตแ ละโหมดถนนลื่นสำหรับทางเรียบ และโหมดการขับขี่ออฟโรดอย่างโหมดหิน โหมดทราย โหมดโคลน และโหมดบาฮา
ส่วนห้องโดยสารโฉมใหม่ได้รับการออกแบบตกแต่งรายละเอียดด้วยสีส้ม ‘โค้ด ออเรนจ์’ ตามแบบฉบับของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ บนแผงหน้าปัด การตัดขอบชิ้นส่วนหลักๆ ในห้องโดยสาร รวมถึงบนเบาะที่นั่งแบบสปอร์ต เบาะนั่งทั้งด้านหน้าและหลังได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด แผงหน้าปัดความละเอียดสูงขนาด 12.4 นิ้ว และหน้าจอแบบสัมผัสตรงกลางขนาด 12 นิ้ว แสดงผลการเชื่อมต่อและระบบความบันเทิงผ่านระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A® อีกทั้งยังมีฟีเจอร์อีกมากมาย อาทิ ช่องต่อพ่วงอุปกรณ์ออฟโรด (Upfitter Switch) และหน้าจอแสดงผลสำหรับการขับขี่แบบออฟโรด
ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ราคาเริ่มต้นที่ 1,869,000 บาท
มอเตอร์โชว์ ยิ้มรับกระแสรถอีวี คาดเงินสะพัดในงานปีนี้ 3 หมื่นล้านบาท
รถยนต์ฟอร์ด เจเนอเรชันใหม่ ทุกรุ่นมาพร้อมการรับประกันคุณภาพรถใหม่จากโรงงานนาน 5 ปี หรือ 150,000 กม. และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งในปีแรก
ทั้งนี้ ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ ผลิตที่โรงงาน ออโต้ อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (เอเอที) และโรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอร์ริ่ง (เอฟทีเอ็ม) ในจังหวัดระยอง ส่วนฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ จะผลิตที่เอฟทีเอ็ม และฟอร์ด เอเวอเรสต์จะผลิตที่เอเอที
พบกับ ฟอร์ด เจเนอเรชั่นใหม่ ทั้ง 3 รุ่น ได้ที่บูธฟอร์ด ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม – 3 เมษายน 2565