แม่ทัพภาค 4 สั่งเร่งกู้สะพานคลองกลาย ถูกน้ำป่าพัดขาด


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำที่ท่วมขังในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ทำให้สถานการณ์ในตัวเมืองหลายแห่ง โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลมหาราช ระดับน้ำท่วมลดลงเป็นปกติแล้ว ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายในอำเภอนบพิตำ พร้อมกำชับทหารเร่งเข้าซ่อมแซมสะพานที่ถูกน้ำป่าพัดเสียหาย

สธ. แจ้งเตือนผู้ร่วมงาน Farm fest – นั่งเที่ยวบินร่วมผู้ป่วยโควิด-19 รีบพบสาธารณสุขจังหวัด

เปิดไทม์ไลน์ชายวัย 28 ปี ติดโควิด-19 จากเพื่อนสาว

ภาพสะพานข้ามคลองกลาย ซึ่งเป็นเส้นทางเข้าออกไปยังตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครราชสีมา ถูกน้ำป่าพัดจนขาด ทำให้รถยนต์พลัดตกลงไประหว่างข้ามสะพาน ทำให้นางสาววิภารัตน์ ไม้ค้าง อายุ 27 ปี จมน้ำเสียชีวิต

วันนี้ 4 ธ.ค. 2563 พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วยนายทหารชั้นผู้ใหญ่ นำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินสำรวจ พร้อมทั้งเข้าเยี่ยมประชาชนใน 13 หมู่บ้าน  ซึ่งต้องใช้สะพานสายนี้เข้าออกหมู่บ้าน และยังได้เดินทางไปร่วมงานศพของ นางสาววิภารัตน์ ผู้เสียชีวิต เพื่อให้กำลังใจครอบครัวด้วย

แม่ทัพภาคที่ 4 บอกว่า ขณะนี้กำลังทหารช่างเร่งขนย้ายเครื่องมือและเครื่องจักรเข้ามาดำเนินการก่อสร้างทางเบี่ยงระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อให้ประชาชนสัญจรไปมาได้ก่อน พร้อมทั้งจะติดตั้งสะพานแบริ่งชั่วคราว  ส่วนการซ่อมสะพานและก่อสร้างใหม่คาดว่าจะต้องให้ผ่านพ้นช่วงมรสุมก่อน

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ลงตรวจสอบสภาพความเสียหาย สะพานคลองกัน 1 ตำบลนบพิตำ ที่ทรุดลงมาเมื่อบ่ายของวันที่ 2 ธ.ค. ทำให้ชาวบ้าน 13 หมู่บ้านในตำบลกรุงชิง และตำบลนบพิตำ อำเภอนบพิตำ ยังถูกตัดขาด เพราะมีความเสี่ยงการสัญจรไปมา เจ้าหน้าที่จึงปิดการสัญจรบริเวณสะพานดังกล่าวชั่วคราวแล้ว

ส่วนพื้นที่ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่พยายามเร่งระบายน้ำออกจากตัวเมือง โดยเฉพาะบริเวณโรงพยาบาลมหาราช  ขณะนี้ระดับย้ำเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว  เจ้าหน้าที่รื้อกระสอบทรายป้องกันน้ำออกจากพื้นที่ พร้อมทั้งเร่งทำความสะอาดเพื่อความสะดวกในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและบุคคลากรทางการแพทย์ ส่วนภาวะน้ำท่วมโดยรวมของนครศรีธรรมราช หลายชุมชนน้ำยังคงท่วมสูงแม้จะลดระดับลงไปบ้างแล้วก็ตาม

นายไกรสร วิศิษฐ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช สรุปจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นในจังหวัดนครศรีธรรมราช มียอดสูงถึง 9 คน โดยมีผู้เสียชีวิตในอำเภอเมือง 2 คน อำเภอพระพรหม 2 คน อำเภอฉวาง 1 คน อำเภอนบพิตำ 1 คน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ 1 คน อำเภอปากพนัง 1 คน และอำเภอนาบอน 1 คน ทั้งหมดเสียชีวิตจากการจมน้ำและถูกกระแสน้ำป่าพัด

ส่วนการระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำชะอวด-แพรกเมือง ในอำเภอหัวไทร ซึ่งรองรับการระบายน้ำจากตัวจังหวัดชั้นใน เช่น อำเภอชะอวด อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอจุฬาภรณ์ และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ไปลงอ่าวไทย เจ้าหน้าที่ได้เปิดประตูระบายน้ำทุกบาน แต่ยังมีอุปสรรคจากภาวะน้ำทะเลหนุน ทำให้การระบายน้ำล่าช้า

TOP สังคม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ