ชาวเลโอดเกาะหลีเป๊ะไร้หาดสาธารณะทำประโยชน์
"วราวุธ"รับแก้ปัญหาที่ดินชาวเลทำได้ยาก
สุสานฝังศพชาวอุรักลาโว้ยและพื้นที่ทางจิตวิญญาณ ถูกห้อมล้อมด้วยรีสอร์ทที่เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่เมื่อไม่กี่ปีมานี้ พื้นที่สุสานที่เคยมีอยู่กว่า 2 ไร่ ปัจจุบันเหลืออยู่เพียงไม่กี่ตารางเมตร และชาวอุรักลาโว้ยไม่สามารถนำศพมาฝังที่นี่ได้อีกต่อไป เมื่อผู้ประกอบการอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของบนผืนดินที่เป็นสุสาน
ไม่เฉพาะแต่พื้นที่สุสานที่กำลังถูกผู้ประกอบการครอบครอง บ้านที่เคยอาศัยอยู่ริมหาดของชาวอุรักลาโว้ยหลายคนก็ถูกครอบครองไปแล้วเช่นกัน และหลายคนก็กำลังถูกฟ้องร้องไล่ที่
นางสวัสดี หาญทะเล กำลังถูกผู้ประกอบการฟ้องร้องให้ย้ายออกจากบ้านของตัวเองที่อยู่มาแล้ว 3ชั่วอายุคน นอกจากปากคำที่บอกว่าตัวเองอยู่มาก่อน เธอก็ไม่มีเอกสารหลักฐานใดที่จะยืนยันได้ว่าเธอมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินนี้
หลังเป็นคดีความฟ้องร้อง กรมอุทยานฯเข้ามาตรวจสอบ พบว่าผู้ประกอบการมีเอกสารสิทธิ์แค่ 9ไร่ ไม่ใช่23ไร่ตามที่ยื่นฟ้อง โดยบ้านของนางสวัสดีอยู่ในเขตอุทยานฯ ก่อนที่ศาลชั้นต้นจะพิพากษาให้เธอออกจากพื้นที่ เพราะไม่มีเอกสารสิทธิเช่นกัน
ที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะมีความทับซ้อนกันหลายส่วน ทั้งที่โฉนดส.ค.1ที่ถูกซื้อขายเปลี่ยนมือกันหลายทอด และมีพื้นที่เขตอุทยานฯ ทำให้เกิดปัญหาการฟ้องร้องชาวอุรักลาโว้ยต่อเนื่อง ขณะที่หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่พิสูจน์ทราบว่าใครมาก่อนหรือหลังก็แทบไม่ได้ถูกเก็บบันทึกไว้ เมื่อเกิดการฟ้องร้องชาวอุรักลาโว้ยจึงมักแพ้คดี
ข้อมูลจากศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร ระบุว่า ที่ผ่านมามีชาวเลทั่วประเทศ ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีที่ดินกว่า30คดี ชาวเลได้รับผลกระทบกว่า 3,500 คน ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามผลักดันพระราชบัญญัติส่งเสริมและอนุรักษ์วิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ เพื่อช่วยแก้ปัญหาที่ดินของชาวเลในอนาคต