"อนุทิน" ชงยกเลิกรักษาโควิด-19 ฟรี คนผิดกฎหมายเล่นพนัน-ลักลอบเข้าเมือง
ช่วย"หมีหมา"ติดบ่วงผอมโซเท้าเน่ากลางป่า
พื้นที่เล็กๆที่ปลูกทับลำรางสาธารณะย่านเสือใหญ่ประชาอุทิศ นี่คือบ้านของกาญจนา แม่มือใหม่ของลูกน้อยวัย 4 เดือน ภายในห้องแคบๆ ที่ถูกใช้เป็นทั้งห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องกินข้าว ต้องรองรับคนอาศัยในบ้านถึง 4 คน
ด้วยความเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่ต้องลูกเลี้ยงลูกเพียงลำพัง กาญจนาจึงไม่ได้ออกไปทำงานที่ไหน รายได้หลักของครอบครัวนี้จึงมีแค่การขับวินมอร์เตอร์ไซค์ของคุณตาวันละ 2-3 ร้อยบาท และเบี้ยเลี้ยงคนพิการที่รัฐบาลให้ เนื่องจากเธอเป็นผู้พิการด้านสติปัญญาและการเรียนรู้
แม้จะเป็นผู้พิการด้านสติปัญญา แต่กาญจนายังพอจะมีความรู้ว่าลูกของเธอควรจะได้รับเงินอุดหนุนของรัฐบาลเดือนละ 600 บาทเหมือนกับเด็กคนอื่น ก่อนหน้านี้จึงเดินทางไปยื่นเอกสารขอรับสิทธิ์กับสำนักงานเขตแล้ว แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายลูกต้องแบ่งเอาจากเบี้ยคนพิการ ส่วนนมผง ก็ต้องไปเข้าโครงการขอสนับสนุนจากมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม
สุนี ไชยรส หนึ่งในคณะทำงานขับเคลื่อนสวัสดิการ เงินอุดหนุนเด็กเล็กแบบถ้วนหน้า ระบุว่า ปัจจุบันเด็กเล็กที่จะได้เงินอุดหนุนก้อนนี้ ต้องอยู่ในเกณฑ์ครอบครัวที่มีรายได้เฉลี่ยต่อคนไม่เกินแสนบาทต่อปี แต่จากงานศึกษาพบว่ามีหลายครอบครัวที่แม้จะอยู่ในเกณฑ์ แต่ตกหล่นไม่ได้รับเงินถึงร้อยละ 30 ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาให้เด็กทุกคนได้รับสิทธิ์ทั่วถึง จึงเสนอว่ารัฐบาลควรมอบเงินอุดหนุนแบบถ้วนหน้า แทนการแบ่งแยกเด็กรวย เด็กจน
ปัจจุบัน มีเด็กเล็กที่เข้าเกณฑ์และได้รับเงินอุดหนุน ราว 2 ล้านคน กับงบประมาณ 1.5 ล้านบาท แต่หากเปลี่ยนโยบายเป็นแบบถ้วนหน้า ให้เด็กได้รับทุกคน จะมีเด็กเข้าถึงสิทธิ์นี้ถึงกว่า 4.2 ล้านคน กับงบประมาณที่เพิ่มเป็น 3 หมื่นล้านบาทเท่านั้น
ซึ่งสุนีมองว่า จากสถานการณ์โควิด19 ทำให้หลายครอบครัวตกงานและมีคนจนใหม่เพิ่มขึ้น หากรัฐบาลรับข้อเสนอนี้ก็จะช่วยแบ่งเบาภาระให้กับอีกหลายครอบครัว
เบื้องต้นก่อนหน้านี้ คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ได้มีมติเห็นชอบแนวทางการจัดสวัสดิการเงินอุดหนุนเด็กเล็กแบบถ้วนหน้าแล้ว โดยให้เริ่มในปีงบประมาณ 2565 แต่ว่าจนถึงขณะนี้มติดังกล่าว ยังไม่ถูกเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา
