วิกฤตโควิดมาเลย์ - เมียนมา ล้อม กราฟพุ่ง 374 รายใหม่ ห่วงกทม. 'หมอทวีศิลป์' เผยตัวเลขบังเอิญ!
เปิดใจ นักพัฒนาแอปฯ “หมอชนะ” หลังทีมงานอาสาประกาศถอนตัว วอนรัฐบาลหยุดล้วงลูก
เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2564 นายพลิศร โนจา ผู้อำนวยศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์และเด็กถูกล่วงละเมิด (บ้านครูจา) โดย มูลนิธิพัฒนาการคุ้มครองเด็ก เปิดให้ผู้สื่อข่าว เข้ามาสำรวจชีวิตความเป็นอยู่ของเด็กในเวลานี้ หลังสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 จนทำให้การดูแลเด็กของที่นี่ได้รับผลกระทบ เพราะต้องปิดสถานสงเคราะห์และมูลนิธิ ไม่ให้คนภายนอกเข้า เพื่อป้องกันโรค
นายพลิศร เปิดเผยว่า การระบาดของโควิด-19 ระลอก 2 ทำให้บ้านครูจาได้รับผลกระทบอย่างมาก ผู้ที่เคยเดินทางนำของมาบริจาคก็ไม่สามารถเข้ามาได้เหมือนเก่า และประกอบพิษเศรษฐกิจทำให้มีเด็กถูกกระทำรุนแรงต่อครอบครัวมากขึ้น เด็กที่อยู่ที่นี่จากเดิมมี 35 คน เพิ่มเป็น 50 คน ยังไม่นับเจ้าหน้าที่อีก 6 คน ส่งผลให้เวลานี้บ้านครูจากำลังเผชิญกับการขาดแคลนอาหารสดและอาหารแห้ง ซึ่งต้องทำเลี้ยงเด็ก ๆ จากเดิม 2 มื้อ คือ เช้ากับเย็น เพิ่มเป็น 3 มื้อ เนื่องจากเด็กส่วนใหญ่ ไม่สามารถไปโรงเรียนและรับประทานอาหารกลางวันที่โรงเรียนได้เหมือนเคย ยังไม่นับรวมค่าน้ำ ค่าไฟ ที่สูงขึ้นตามมาด้วย
“สิ่งที่เรามีความจำเป็น ก็พวกอาหารแห้ง อาหารสด ซึ่งมีความจำเป็นกับเด็กมากเลย ปกติแล้วเด็กจะทานอาหารแค่เช้ากับเย็น และที่เหลืออีกมื้อไปทานที่โรงเรียน เวลานี้เราต้องทำอาหารให้ 3 มื้อเลย รวมทั้งอาหารว่าง ดังนั้นสำหรับเด็นที่อยู่ในศูนย์เรา กระทบที่สุด คือ เรื่องอาหารเป็นหลัก ที่รองลงมาคือค่าน้ำค่าไฟ ก็จะเพิ่มสูงขึ้นมา เพราะเกิดจากเด็กของเราจะอยู่ในศูนย์ทั้งหมด” นายพลิศร กล่าว
นายพลิศร กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ที่ต้องการจะช่วยเหลือหรือเดินทางมาบริจาคของให้กับเด็ก ๆ ที่บ้านครูจาในช่วงนี้ อาจจะไม่ได้รับความสะดวกเหมือนเคยที่สามารถเข้ามาภายในบ้านได้เลย แต่ด้วยความจำเป็นทางบ้านครูจายังต้องเปิดรับบริจาคต่อไป โดยจะปรับมาตรการให้เจ้าหน้าที่ออกมารับของแทน ซึ่งผู้บริจาคต้องติดต่อเข้ามาสอบถามและนัดหมายก่อน
ส่วนผู้ที่ไม่สะดวกเดินทาง สามารถโอนเงินสนับสนุบสนุนช่วยเหลือเด็ก ๆ และเยาวชนที่ได้รับความรุนแรงทางสังคมที่อาศัยอยู่ที่แห่งนี้ ได้ที่ บัญชีธนาคารกสิกรไทย เลขบัญชี 006 1 23489 6 ชื่อ ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์และการล่วงละเมิดทางเพศ (ศตคด.) โดย มูลนิธิพัฒนาการคุ้มครองเด็ก