“อัจฉริยะ” ขอจ่ายแทนยาย 89 โดนเรียกเงินชรา


โดย PPTV Online

เผยแพร่




รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมเรียกกรมบัญชีกลาง และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หารือเรื่องการแยกเงินเบี้ยคนชรา-เบี้ยบำนาญจากญาติเสียชีวิต หลังมีการเรียกเบี้ยคนชราย้อนหลัง เหตุรับเงินบำนาญของลูกอย่างต่อเนื่อง

ยายวัย 89 ปี ยอมคืนเบี้ยคนชราขอผ่อน 20 เดือน

ยายวัย 89 ช็อก กรมบัญชีกลางเรียกคืนเบี้ยชราย้อนหลัง 10 ปี เกือบแสน

ล่าสุดยังมีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นอีก ที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ตรวจสอบพบว่าผู้ที่ถูกเรียกเบี้ยผู้สูงอายุคืน นางทิม  สังข์สนิท  อายุ 89 ปี อยู่ตำบลลำไทรโยง  อ.นางรอง  ถูกเรียกเบี้ยคนชราคืนย้อนหลัง 16 ปี เป็นเงิน 121,800 บาท  เหตุซ้ำซ้อนเงินบำนาญพิเศษกรณีลูกชายเป็น ตชด. หายสาบสูญขณะถูกกองกำลังกระเหรี่ยงโจมตีฐาน แต่ทำบันทึกทยอยชำระคืนเดือนละ 5,000 เพราะกลัวถูกดำเนินคดี  วอนขอช่วยเหลือเพราะต้องหักจากเงินบำนาญมาจ่าย 

ส่วนกรณีนางบวน โล่ห์สุวรรณ อายุ 89 ปี ชาวบ้านใน ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ถูกขอคืนเงินเบี้ยผู้สูงอายุที่จ่ายให้กับนางบวน เป็นเวลา 10 ปี พร้อมดอกเบี้ย รวมเป็นเงินกว่า 84,000 บาท  หลังได้รับเงินสวัสดิการซ้ำซ้อน 

ล่าสุดนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ ยื่นมือช่วยเหลือยาย 89 ที่ถูกกรมบัญชีกลาง เรียกเงินเบี้ยคนชราคืนกว่า 8.4 หมื่น ด้วยการขอรับใช้หนี้คืนให้ยายทั้งหมดจำนวน 12 เดือน โดยไม่มีข้อแม้

นายษิธา เบี้ยกำเนิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ  ได้โพสต์ข้อความระบุว่า กรณีนี้ถือเป็นเรื่องลาภมิควรได้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๓๐๖ – ๓๑๙ ที่เจ้าหน้าที่ของรัฐจ่ายเงินเบี้ยผู้สูงอายุให้แก่ผู้สูงอายุที่ไม่มีสิทธิได้รับ เนื่องจากซ้ำซ้อนกับเบี้ยชนิดอื่นที่ผู้สูงอายุได้รับไปแล้ว

กรณีนี้ถือว่าเงินจำนวนที่รัฐจ่ายให้ผู้สูงอายุโดยผิดหลงไป เป็นเงินที่ผู้สูงอายุได้รับไปโดยไม่มีมูลอันจะอ้างตามกฎหมายได้ จึงถือเป็นลาภมิควรได้ ตามมาตรา ๔๐๖ เมื่อปรากฎว่าผู้สูงอายุได้รับเงินนั้นมาโดยสุจริต และได้ใช้จ่ายไปหมดแล้วก่อนที่รัฐจะเรียกคืน ผู้สูงอายุนั้นจึงไม่ต้องคืนเงินนั้น ตามมาตรา ๔๑๒ (นัยคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๐๘๕๐/๒๕๕๙)

สิ่งที่รัฐต้องดำเนินการในส่วนเจ้าหน้าที่ของรัฐที่จ่ายเงินเบี้ยคนชราโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือผิดหลง ก็คือต้องตั้งกรรมการเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดแก่เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่ผู้สูงอายุ หากได้ความว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นก็ต้องรับผิดเป็นการส่วนตัว และชดใช้เงินคืนแก่รัฐตามสัดส่วนที่หน่วยงานนั้นเสนอความเห็นและกรมบัญชีกลางเห็นชอบด้วย

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากกระแสข่าวที่มีการเรียกเงินเบี้ยยังชีพจากคนชรา เนื่องจากเป็นผู้มีสิทธิรับเงินบำนาญข้าราชการนั้น เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาลักษณะ จึงเตรียมเรียกกรมบัญชีกลาง และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) หารือเรื่อง เงินในส่วนที่ผู้สูงอายุควรได้เมื่ออายุ 60 ปีขึ้นไป ไม่ควรนำมาปะปนกับเงินบำนาญที่เกิดจากการสูญเสียญาติพี่น้องหรือมรดกตกทอด เพราะเงินผู้สูงอายุถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่ผู้สูงวัยควรได้รับเฉพาะผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระบบหลักประกัน หรือรับข้าราชการ ควรแยกออกจากกันให้ชัดเจน

TOP สังคม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ