วัดบ้านไร่ ขอดูเจตนาคนทำเสื้อขายก่อน
คลื่นมหาชน นำผ้าปูพื้นถนน ให้รถบรรรทุกสรีรสังขาร “หลวงพ่อคูณ” เหยียบ
นายนิติธร แก้วโต หรือ ทนายเจมส์ อธิบายประเด็นนี้ว่า ภาพถ่ายหลวงพ่อคูณถือเป็นงานศิลปะระยะเวลาการคุ้มครองคือตลอดอายุของผู้สร้างสรรค์ผลงาน และคุ้มครองต่อไป 50 ปี หลังจากที่ผู้สร้างสรรค์ผลงานเสียชีวิต
แต่กรณีของยันต์หลวงพ่อคูณ เป็นการนำภาพถ่ายมาปรับแต่ง โดยใส่ลายเส้นยันต์ถือเป็นศิลปะประยุกต์ มีระยะเวลาการคุ้มครอง 25 ปี นับตั้งแต่มีการเผยแพร่ครั้งแรก โดยยันต์หลวงพ่อคูณผืนนี้ ถูกเผยแพร่ครั้งแรกเมื่อปี 2536 นั่นหมายความว่ามีการเผยแพร่ออกมา 28 ปีแล้ว เพราะฉะนั้นการนำยันต์ไปใช้ไม่จำเป็นต้องขออนุญาต
แต่ในขณะเดียวกันมีการปรากฏชื่อของวัดบ้านไร่อยู่บนเสื้อ ในส่วนนี้ต้องขออนุญาตกับทางวัด ซึ่งหากไม่ขออนุญาต ก็จะเข้าข่ายมีความผิดทางแพ่งฐานทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งในส่วนนี้ก็ต้องมาดูในเจตนาของการผลิตเสื้อดังกล่าวอีกครั้ง
ในมุมมองของทนายเจมส์ มองว่า กรณีของการทำเสื้อสกรีนรูปยันต์หลวงพ่อคูณนั้น แบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ เรื่องธุรกิจแฟชั่น กับความศรัทธาของผู้คน โดยมองเรื่องธุรกิจแบรนด์สุพรีมถือว่าเป็นแบรนด์ดังระดับโลกและการที่นำยันต์ของหลวงพ่อคูณไปใช้ อาจทำให้ชาวต่างชาติรู้จักหลวงพ่อคูณและวัดบ้านไร่มากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทยสำหรับผู้ที่มีจิตศรัทธา โดยเชื่อว่าทางแบรนด์สุพรีมไม่ได้มีเจตนาหรือตั้งใจจะดูหมิ่น หรือลบหลู่หลวงพ่อคูณ แต่ในทางปฏิบัติก็ควรมีการขออนุญาตกับทางวัดให้ถูกต้องด้วย