ตายายทุกข์หนักถูกยึดที่ ลูกกู้ กยศ.ไม่คืน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




2 ตายายร่ำไห้ ร้องสื่อ ขอช่วยตามหาลูกชายคนเล็ก เหตุเนื่องจากไปกู้ กยศ.มา แล้วไม่ยอมใช้หนี้ จนถูกยึดที่ดิน ขายทอดตลาด เจ้าของที่ดินใหม่บอกจะขายกลับให้ 8 แสน วอนลูกกลับมาแก้ปัญหา

หนี้ กยศ. 17,000 ถูกยึดบ้านหลักล้าน กยศ.แจงเรื่องจริง ผู้กู้ ผู้ค้ำ ต้องระวัง!

สาวแพร่ขาดส่งเงินกู้กยศ.ถูกยึดบ้าน 2 ล้านขายทอดตลาด

การประกาศขายที่ดิน 16 ไร่ 89.9 ตารางวา ที่ตำบลวังไทร อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งที่ดินตรงนี้ แต่เดิม เป็นของ คุณตา เชิด นุ่มวงษ์ อายุ 88 ปี และ คุณยาย ทองคำ นุ่มวงษ์ อายุ 84 ปี

ซึ่งตอนนี้ คุณตา และคุณ ยาย กำลังมีความทุกข์อย่างหนัก สืบเนื่องจาก ลูกชายคนเล็ก ชื่อ นายธนา นุ่มวงศ์" อายุ 42 ปี หายไปกว่า 5 เดือนแล้ว ไม่กลับมาช่วยแก้ปัญหาที่ลูกชายก่อไว้

สืบเนื่องจาก ลูกชาย ได้ไปกู้ กยศ. (กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา) มาเรียนจนจบการศึกษา ในช่วงปี 2543 จำนวนรวม 130,000 บาท แต่ไม่ได้จ่ายหนี้คืน ทำให้ วันหนึ่ง มีหนังสือจากสำนัก สำนักงานบังคับคดีจังหวัดกำแพงเพชร ประกาศยึดทรัพย์เพื่อขายทอดตลาด เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เคาะซื้อที่ดินผืนนี้แล้ว ไปในราคา 402,000 บาท

ภายหลังคุณตา คุณยาย ได้ไปค้น ห้องนายธนา จึงเพิ่งพบว่า นายธนา ได้นำหนังสือทวงถามหนี้ กยศ.ไปซ่อนไว้ เมื่อค้นเจอก็สายไปเสียแล้วที่จะไกล่เกลี่ยประนอมหนี้

ต่อมา วันที่ 3 กันยายน ปี 2563 ผู้ที่ซื้อที่ดินไป ได้มาเสนอขายบ้านและที่ดิน กลับคืนให้ตายาย ในราคา 800,000 บาท และได้ทำสัญญาซื้อขายต่อกันไว้ วันนั้นลูกชายก็อยู่ด้วย บอกตายายว่า ต้องจ่ายค่ามัดจำ 20,000 บาท และเซ็นสัญญาซื้อขาย ตายายก็เซ็นไป เพราะลูกบอกให้เซ็นก็เซ็น ไม่รู้ว่าเป็นเอกสารอะไร

นอกจากนี้ ที่ ตายาย อยากให้ลูกกลับบ้าน ก็ยังมีอีกสาเหตุ คือ เงินกู้กยศ. เมื่อหักเงินกู้ยืม และดอกเบี้ยแล้ว มีเงินเหลือ 1 แสนกว่าบาท ซึ่งต้องคืนให้ครอบครัว แต่ถ้าลูกชายไม่มาเซ็นเอกสาร ก็จะไม่ได้เงินส่วนนี้

ที่ร้องเรียนนักข่าววันนี้ ก็อยากให้นักข่าว ช่วยลงข่าวเพื่อตามหาลูกทุกวันนี้ถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ ถ้ารู้มาก่อน ว่ามีหนี้ กยศ. จะนำเงินคนพิการและเบี้ยคนชราผ่อนเอง มารู้ในวันที่สายไปแล้วส่วนที่ผืนนี้ก็อยู่กัน 5 ครอบครัว 18 คน ถ้าต้องย้ายออกก็เดือดร้อนมาก

ต่อมา คนที่จะขายที่ให้ ก็ขอนัดชำระค่าซื้อขายเป็นงวด /งวดที่ 1 ชำระ 130,000 บาท งวดที่ 2 ชำระ 130,000 บาท งวดที่ 3 ชำระ 120,000 บาท และงวดที่ 4 งวดสุดท้าย ชำระ 400,000 บาทโดยงวดที่ 1 ต้องชำระวันที่ 2 ตุลาคม 2563

ตายายเล่าว่า ก็ยังไม่มีเงิน ช่วงเดือนพฤศจิกายน ลูกชาย เลยบอกว่าจะออกจากบ้านไปหาเงินมาซื้อที่คืน และตอนนี้ผ่านไป 5 เดือนแล้ว ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งตายายเพียงอยากให้ลูกชาย กลับมาบ้าน มาช่วยกันแก้ปัญหา ส่วนที่เขาไล่ที่ให้ออก ก็ขอตายอยู่แถวนี้

TOP สังคม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ