โซเชียลจับพิรุธพ่อรับบริจาคลูกโดนน้ำมันลวก


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพลูกชายตัวเองถูกน้ำมันลวก มีแผลพุพองทั้งตัว อาการสาหัสต้องพักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู พ่อเด็กได้เปิดขอรับบริจาคค่ารักษาทำให้มีผู้ใจบุญโอนเงินบริจาคไปให้จำนวนมาก ต่อมาชาวเน็ตตั้งข้อสังเกตถึงพิรุธต่างๆ ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือไม่ เป็นการหลอกเปิดบัญชีรับบริจาคหรือไม่ หลังเงินบริจาคที่หลั่งไหลเข้ามานับล้านภายในวันเดียว แต่อยู่ดีๆเจ้าของโพสต์กลับลบโพสต์

ผู้บริจาคแฉพฤติกรรม “แม่ปุ๊ก” อ้างเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เรียกความสงสารขอเงินบริจาค

คดีเหี้ยม !! รับเด็กมาเลี้ยง วางยาเด็ก ขอรับบริจาค สุดท้ายเด็กตาย

โลกออนไลน์ได้แชร์เรื่องราวพ่อของเด็กคนหนึ่ง ซึ่งโพสต์ขอความลงบนโซเชียลมีเดียเพื่อขอช่วยเหลือ หลังจากที่ลูกของเขาถูกน้ำมันลวก รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก เลยต้องขอเปิดรับบริจาคเอาเงินมารักษาเด็ก

จากนั้นไม่นานมีคนแชร์โพสต์ต่อๆกันเป็นจำนวนมาก พร้อมส่งสลิปโอนเงินช่วยเหลือเข้าไปเป็นจำนวนมากด้วยความที่สงสารเด็ก ทำให้ยอดบริจาคภายในแค่ไม่กี่ชั่วโมงพุ่งไปถึงหลักล้าน

ต่อมาผู้โพสต์ได้ขอปิดรับการบริจาค พร้อมกับโพสต์ภาพใบเสร็จของค่ารักษาพยาบาลลูกที่ถูกน้ำมันลวก ซึ่งมีค่าใช้จ่ายประมาณ 260,000 บาท ก่อนปิดโพสต์รับบริจาคไปทำให้ชาวเน็ตตั้งข้อสงสัยหลากหลายประเด็น ว่าหนุ่มโพสต์ขอรับบริจาคเงินรักษาลูกโดนน้ำมันลวก ได้ยอดเกือบ 2 ล้าน เป็นเรื่องจริงหรือไม่ หรือฐานะทางบ้านเป็นนอย่างไร เพราะเห็นในเพจเฟซบุ๊กผู้โพสต์ดูเป้นคนมีฐานะ  มีรถหลายคัน ชาวเน็ตจึงต้องการให้ออกมาแจกแจงเรื่องค่าใช้จ่ายว่านำเงินไปใช้อย่างไรบ้าง

ทีมข่าวพีพีทีวี ได้ตรวจสอบข้อมูลกับทางโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่พ่อเด็กระบุว่าส่งตัวลูกไปรักษา พบว่า  เด็กผู้ป่วยได้ทำการแอดมิดเข้ามารักษาจริง โดยรับเด็กไว้เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ซึ่งตอนนี้ยังคงรักษาตัวอยู่ แต่ว่าไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้เนื่องจากเป็นสิทธิของผู้ป่วย

ทีมข่าวได้พยายามติดต่อเจ้าของโพสต์ ก็คือพ่อเด็ก ก็คือนายทศพล ผ่านคำ หรือ โจ เจ้าของโพสต์ดังกล่าว เจ้าตัวได้ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นหลายประเด็น  โดยนายทศพล ได้เปิดรูปภาพในโทรศัพท์มือถือให้ทีมข่าวได้ดู พร้อมเล่าไทม์ไลน์เวลาที่เกิดเหตุให้ฟังว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุตนกับลูกวัย 11 เดือน ได้ถ่ายรูปเล่นกันกับรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ช่วงเวลาประมาณ 08.04 น. จากนั้นลูกชายได้เดินเข้าไปในครัว เอื้อมหยิบด้ามจับกระทะที่แม่เพิ่งทอดปลาเสร็จทำให้กระทะกระดกน้ำมันกระเด็นใส่ใบหน้าและลำตัว ตนจึงรีบนำลูกส่งโรงพยาบาลแห่งแรก ย่านลาดพร้าว ซึ่งอยู่ใกล้บ้านมากที่สุด โดยแพทย์ได้แค่เพียงปฐมพยาบาลลูกต้นเบื้องต้น

จนเวลาประมาณ 21.00 น. จึงตัดสินใจขอย้ายตัวลูกชายไปรักษาตัวต่อที่ รพ.แห่งหนึ่งย่านรามคำแหง  ซึ่งแพทย์ประเมินเบื้องต้นว่าจะต้องเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งมีค่าใช้จ่าย 190,000 บาท และ ค่าห้องไอซียูอีกคืนละ 35,000-40,000 บาท

จากนั้นเช้าวันที่ 31 มี.ค. ลูกชายได้เข้าผ่าตัดโดยได้นำเงินส่วนตัวจ่ายไป ซึ่งจากการประเมินค่าใช้จ่ายในการรักษาลูกชายเบื้องต้นมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ทางครอบครัวจึงต้องลงกันว่าจะโพสต์เรื่องราวลงเฟซบุ๊กและขอเปิดบัญชีขอรับบริจาค ซึ่งหลังจากโพสต์ไปไม่นานก็มีผู้ใจบุญโอนเงินเข้ามาบริจาคเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันตนก็พยายามติดต่อโรงพยาบาลรัฐขอส่งตัวลูกชายไปรักษาต่อเพื่อให้มีค่าใช้จ่ายน้อยลงและสามารถใช้สิทธิบัตรทองได้ จนได้รับการตอบรับจากโรงพยาบาลรัฐบาล รับตัวลูกชายไปรักษาต่อ

นายทศพล บอกอีกว่า หลังเปิดบริจาคได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง ยอดบริจาคพุ่งถึง 1.7 ล้านบาท ตนจึงปิดกั้นโพสต์ดังกล่าวเพื่อปิดรับบริจาคแต่ไม่ได้ปิดบัญชี ซึ่งก็ยังมียอดเงินเข้ามาเรื่อยๆจนล่าสุด ปัจจุบันมียอดบริจาคทั้งหมด 1.9 ล้านบาท และได้ทำการปิดบัญชีไปแล้ว ซึ่งสาเหตุที่ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงรายละเอียดค่ารักษาเพราะตัวเลขยอดบริจาคยังไม่นิ่ง แต่หลังจากนี้จะดำเนินการปิดบัญชีรับบริจาคและจะชี้แจงรายละเอียดค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ได้ทราบทั้งหมด

ส่วนกรณีที่ถูกวิพากย์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ว่า ตนออกมาขอรับบริจาคแต่เมื่อเข้าไปดูภาพในเฟซบุ๊กก็ไม่ได้ลำบาก มีบ้านมีรถ มีสวนมีที่ดิน  นายทศพล  ยอมรับว่า ทุกอย่างที่เห็นในภาพเป็นของตนจริง แต่ตนทำงานหาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว รถก็ยังต้องผ่อน ส่วนสวนและที่ดินเป็นมรดกที่พ่อแม่แบ่งให้ ซึ่งหากจะนำทุกอย่างที่มีไปขายก็ต้องใช้เวลากลัวว่าจะไม่ทันนำเงินมารักษาลูกจึงเปิดรับบริจาค ส่วนที่มีชาวเน็ตนำภาพที่ตนโพสต์เกี่ยวกับการพนันฟุตบอลนั้น  ชี้แจงว่า ส่วนตัวเป็นคนชอบกีฬาฟุตบอลอยู่แล้ว ที่โพสต์เพราะความสนุกเท่านั้นไม่ได้เล่นการพนัน

นอกจากนี้ นายทศพล พ่อเด็ก ยังชี้แจงกรณีเฟซบุ๊กที่ตนโพสต์เปิดรับบริจาคเงิน ที่ใช้ชื่อว่าซึ่งมาจากชื่อเล่นตน ที่ชื่อว่า โจ ก่อนลบโพสต์ดังกล่าวทิ้งไปและเปิดเฟซบุ๊กบริจาคอีกอันที่ชื่อว่า" Tristan JO" นายทศพลชี้แจงว่าไม่ใช่เฟซบุ๊กอันใหม่ของตน แต่เป็นของพี่ชายฝาแฝด ชื่อว่านายโจ้ เป็นลุงของเด็ก  ที่ช่วยเปิดรับบริจาคเช่นกัน ขณะนี้เฟซบุ๊กของพี่ชายมียอดเงินบริจาคล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 110,000 บาท ตนได้โอนมารวมในบัญชีหลักของตนทั้งหมดแล้ว ตอนนี้ได้ทำการปิดบัญชีรับบริจาคทุกทาง

ยืนยันว่าเงินที่ได้จะไม่นำมาใช้ส่วนตัว หลังจากนี้จะชี้แจงรายละเอียดยอดเงินบริจาคทั้งหมด ซึ่งหากคนที่บริจาคต้องการเงินคืนตนก็ยินดีคืนให้ทุกคน ส่วนเงินที่เหลือ ตั้งใจจะนำไปมอบให้มูลนิธิเป็นการกุศลต่อไป

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP สังคม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ