โยมรวมตัวป้องอดีตสมภาร รื้อปมที่ดินวัด


โดย PPTV Online

เผยแพร่




จากประเด็นที่พีพีทีวีทำเสนอประเด็นอดีตเจ้าอาวาสวัดหนองสรวง อ.วิหารแดง จ.สระบุรี ถูกปลดออกจากตำแหน่ง หลังเข้าไปตรวจสอบการบริหารจัดการที่ธรณีสงฆ์ของวัด ที่เดิมวัดให้ผู้ยากไร้เช่าอยู่อาศัยตาราวาละ 3 บาทต่อปี ส่งผลให้อดีตเจ้าอาวาสรูปนี้ถูกปลดและรักษาการเจ้าอาวาสรูปใหม่มีหนังสือขับออกจากวัด แต่วันนี้ญาติโยมในละแวกวัดที่ศรัทธาพระรูป ไปรวมตัวปกป้อง เพราะวันนี้เป็นเส้นตายให้ออกจากวัด พร้อมทำพิธีตามความเชื่อ สาปแช่งผู้ที่กลั่นแกล้งพระ

สธ.เคาะยกระดับ 18 จว.เป็นพื้นที่สีแดง ปิด ผับ-บาร์-อาบอบนวด ชงศบค.ไฟเขียว

เปิดสถิติหวยออกงวด 16 เม.ย. 5 ปีย้อนหลัง

ชาวบ้านจำนวนหนึ่งใน ต.หนองสรวง อ.วิหารแดง จ.สระบุรี ทำพิธีกรรมความเชื่อโบราณ เผาพริก เผาเกลือ สาปแช่งบุคคลที่ร้องเรียนพระมหาประพันธักดิ์ ทิฏฺฐิวิสุทฺธี อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองสรวง ที่ถูกปลดจากตำแหน่ง และถูกพระครูไพโรจน์สรธรรม รักษาการเจ้าอาวาสรูปใหม่ ขับออกจากวัด โดยให้เหตุผลว่าไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ที่ขอให้คืนเอกสารรายรับ รายจ่ายของวัดทั้งหมด ซึ่งกำหนดเส้นตายให้ย้ายออกจากวัดวันนี้

นายน้อย สุวรรณ หนึ่งในชาวบ้าน ซึ่งเป็นกรรมการวัดที่ชาวบ้านรวมกันตั้งขึ้นมี 10 คน เผยว่า กรรมการวัดชุดปัจจุบันถูกพระครูไพโรจน์สรธรรม สั่งเมื่อปลายปีที่แล้วห้ามกระทำการใดๆ ที่เกี่ยวกับวัดหนองสรวง หลังวัดมีปัญหาเรื่องการตรวจสอบที่ธรณีสงฆ์  47 ไร่ ที่พระมหาประพันธ์ศักดิ์ตรวจสอบพบว่าอาจมีการทุจริต

ต่อมาพระครูไพโรจน์สรธรรม รักษาการเจ้าอาวาส ได้ตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมา และติดป้ายประกาศช่วงต้นเดือนเมษายน เรียกเก็บค่าเช่าที่ดินของวัดหนองสรวงต่อ

นายน้อยจึงสงสัยว่า คำสั่งปลดพระมหาประพันธ์ศักดิ์พ้นตำแหน่งเจ้าอาวาส ของเจ้าคณะปกครองสงฆ์ ทั้ง ๆ ที่พระมหาประพันธ์ศักดิ์ยังตรวจสอบปัญหาดังกล่าวไม่แล้วเสร็จ โดยพระครูไพโรจน์สรธรรมให้เดินหน้าเก็บค่าเช่าต่อ

 ซึ่งนายน้อยเชื่อว่า อาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้บุคคลที่นำสัญญาเช่าที่ธรณีสงฆ์ ไปขายสิทธิ์ต่อหรือไม่ พวกเขาจึงออกมารวมตัวกัน เพื่อปกป้องไม่ยอมให้พระมหาประพันธ์ศักดิ์ถูกขับไล่จากวัด พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ยึดติดกับพระ แต่รักวัดแห่งนี้และต้องการทวงคืนที่ดินที่ส่อเค้าทุจริตกลับมา เพื่อสร้างเป็นลานปฏิบัติธรรม

นายน้อย ยังยืนยันว่า กรรมการวัดชุดดังกล่าวที่ชาวบ้านตั้งขึ้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดูแลเงินของวัด แต่มีหน้าที่ทะนุบำรุงวัด ใช้เงินจากความศรัทธาของชาวบ้าน ซึ่งพระมหาประพันศักดิ์ ใช้วิธีแต่งตั้งกรรมการขึ้นมารับผิดชอบแต่ละงานของวัด โดยแยกชุดกัน

ณะที่พระมหาประพันศักดิ์ ยืนยันไม่ย้ายออกจากวัด แม้ตามกระแสข่าวลือว่า จะถูกกรรมการกลางที่รักษาการเจ้าอาวาสตั้งขึ้น ข่มขู่ล็อกประตูกุฏิไม่ให้เข้าจำวัดอีก ก็จะจำวัดอยู่ด้านนอก

อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองสรวงบอกว่า ต้องการนำที่ธรณีสงฆ์ส่วนหนึ่งจาก 47 ไร่ ที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม โดยปัจจุบันมีญาติโยมในละแวกวัด มาร่วมกันลงแรงก่อสร้าง ปรับแต่งสถานที่ไปส่วนหนึ่งแล้ว แต่ถูกคำสั่งปลดก่อน

ส่วนการตรวจสอบที่ธรณีสงฆ์ พระมหาประพันธ์ศักดิ์ ขอร้องให้รักษาการเจ้าอาวาส เปิดโอกาสให้ทำหน้าที่ต่อ เพราะจากการสอบถามข้อมูลจากผู้เช่าที่ธรณีสงฆ์ พบมีการซื้อ-ขายสิทธิ์ เปลี่ยนมือกันหลายทอด โดยจ่ายเงินเฉลี่ยราคาแปลงละ 5 หมื่นบาท

ขณะที่สัญญาเช่าของวัดกำหนดไว้เพียงตารางวาละ 3 บาทต่อปี และพบว่าหัวเอกสารสัญญาเช่า ถูกเขียนด้วยลายมือคล้ายกับลายมือของผู้ร่วมบริหารจัดการเงินของวัดหนองสรวงคนหนึ่ง โดยระบุว่า เป็นการขายให้ หรือซื้อต่อจากผู้ใด ซึ่งผิดจากวัตถุประสงค์เดิม

เมื่อตรวจบัญชีรายรับ-รายจ่ายของวัด กลับไม่พบเงินตามจำนวนที่ผู้ซื้อสิทธิ์กล่าวอ้าง

เรื่องนี้พระมหาประพันธ์ศักดิ์ได้ปรึกษาเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติจังหวัดสระบุรีมาแล้ว รวมทั้งเคยคิดแจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดี แต่ผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าวสุขภาพไม่แข็งแรง จึงไม่อยากให้เป็นบาปต่อกัน และคิดว่าจะพูดคุยกันรู้เรื่อง แต่ตัวเองกลับถูกร้องเรียนไปถึงเจ้าคณะจังหวัดสระบุรี ปรักปรำให้เป็นผู้หย่อนความสามารถ จนถูกปลด และถูกขับไล่จากวัด ฐานไม่ยอมส่งหลักฐานการเงินให้ และไม่อยู่ในโอวาท

ระหว่างที่พีพีทีวีหาข้อมูลในพื้นที่ มีชายสูงวัยคนหนึ่งเดินทางไปที่วัด ทราบชื่อภายหลังคือนายปั่น เกตุสุวรรณ แสดงตัวเป็นเจ้าของที่ดินแปลงหนึ่ง เนื้อที่ 1 ไร่ 2 ตร.ว.  

นายปั่น เปิดเผยว่า ซื้อสิทธิ์ครอบครองที่ดินจากหญิงคนหนึ่ง ในราคา 120,000 บาท ก่อนจะพาไปดูที่ดิน ซึ่งปลูกสะเดาและมะม่วงไว้ โดยบอกว่า หลายปีก่อนรู้จักชายคนหนึ่งว่ามีคนต้องการขายที่ดิน จึงไปติดต่อซื้อขายกับหญิงคนดังกล่าว และไปทำสัญญาที่บ้านของผู้ร่วมบริหารจัดการเงินของวัดคนนั้น แต่ในสัญญาไม่เขียนราคาซื้อขาย เป็นเพียงสัญญาเช่าที่ดินของวัด คือตารางวาละ 3 บาทต่อปี รวมเป็นราคา 1,200 บาทต่อปี

หญิงอีกคนหนึ่ง ได้ให้ข้อมูลกับพีพีทีวี ว่า ตนเองก็เป็นผู้ซื้อสิทธิ์เหมือนกัน โดยซื้อมาในราคา 7 หมื่นบาทเพื่อปลูกบ้าน และทำสัญญาเช่าที่ดินกับวัด ในบ้านของอดีตไวยาวัจกรคนนี้เช่นเดียวกับนายปั่น ซึ่งเพิ่งจ่ายสัญญาเช่าผ่านกรรมการกลางที่รักษาการเจ้าอาวาสวัดตั้งขึ้นไปเมื่อไม่กี่วันก่อน

ที่ดิน 47 ไร่แห่งนี้ เดิมมีผู้บริจาคให้วัด ซึ่งเจตนาของวัดยุคเจ้าอาวาสรูปก่อนพระมหาประพันศักดิ์ ต้องการให้ผู้ยากไร้เช่าอยู่อาศัยในราคาถูก เมื่อถูกพระมหาประพันธ์ศักดิ์ ตรวจสอบพบการซื้อขายสิทธิ์ โดยรายได้ได้ไม่เข้าวัด ทายาทของเจ้าของที่ดินคือ นางวันเพ็ญ  พิทักษ์อุปถัมภ์ มีศักดิ์เป็นเหลนของเจ้าของที่ดิน จึงออกมาปรากฏตัว และวันนี้เธอได้เดินทางไปที่วัดเพื่อให้กำลังใจพระมหาประพันธ์ศักดิ์ด้วย เช่นกัน และต้องการให้พระมหาประพันธ์ศักดิ์ทวงคืนที่ดินกลับมาเป็นของวัดตามเดิม

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP สังคม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ