ครอบครัวยากจน บ้านถูกยึด หนูน้อยวัย 9 ขวบชวนพ่อ-พี่ ฆ่าตัวตาย หวังเกิดใหม่มีชีวิตที่ดีขึ้น


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ชีวิตรันทด! หนูน้อยวัย 9 ขวบ ชวนพ่อ-พี่ ฆ่าตัวตาย เพื่อขอให้เกิดใหม่ที่ดีกว่า เพราะความจน แล้วยังมาเจอปัญหาบ้านถูกบังคับคดียึดขาย เหตุมาจากถูกปลอมชื่อไปค้ำซื้อรถยนต์

หุ้นไทย (22 เม.ย.64) ปิดซื้อขายที่ระดับ 1,568.21 จุด ลดลง -11.80 จุด

5 เคล็ดลับ การสื่อสารในภาวะวิกฤต รับมือโควิดรอบใหม่

วันนี้ 22 เม.ย. 2564 ที่ทำการ ผู้ใหญ่บ้านเลขที่ 45 หมู่ที่ 9 ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุมพร  นายสามารถ รอดวิจิตร ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 9 ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุมพร  ได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่า มีครอบครัวที่กำลังลำบากยากจนมาก อีกทั้งกำลังโดนมรสุมลูกใหญ่ถาโถมเข้าสู่ ครอบครัวดังกล่าว ถึงขั้นชวนกันฆ่าตัวตายทั้งบ้าน เพื่อหนีปัญหาดังกล่าว  จึงไปพบเพื่อขอทราบรายละเอียด

นายสามารถ รอดวิจิตร ผญบ.หมู่ที่ 9 ได้นำไปพบกับ นางนวลศรี  ทวิชศรี อายุ 67 ปี บ้านเลขที่ 80  หมู่ที่ 9 ต.บางมะพร้าว  อ.หลังสวน จ.ชุมพร  ซึ่งเป็นร้านค้าภายในหมู่บ้าน

สอบถามรายละเอียด เบื้องต้น นายสามารถ และ นางนวลศรี ได้เล่า เรื่องครอบครัวนี้ เมื่อช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ได้มีนายสุชล ฤทธิรุตม์ อายุ 48ปี อาชีพ รับจ้างทำสวน บ้านเลขที่ 58 หมู่ที่ 9 ต.บางมะพร้าว ได้มาปรึกษาว่า ภรรยาของนายสุชลได้ป่วยและเสียชีวิต ที่ รพ.หลังสวน นำศพกลับมาที่บ้าน แต่ไม่มีเงินในการจัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพ จึงขออนุญาตผู้ใหญ่บ้านเพื่อฝังศพภรรยาโดยไม่ต้องทำพิธีทางศาสนาได้หรือไม่  นายสามารถ ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า ไม่อนุญาต ถ้าฝังศพภรรยาโดยพลการจะจับกุมดำเนินคดี 

นางนวลศรีทราบเรื่องจึงได้รวบรวมเงิน ทำพิธีศพให้ ชาวบ้านในตำบลทราบข่าวจึงมาช่วยกันบำเพ็ญกุศลศพ  หลังจากเผาศพมีเงินเหลือจำนวนหนึ่ง ครอบครัวนายสุชล ซึ่งมีลูก 3 คน เป็น ชาย1คน และหญิง 2 คน หญิงคนโต อายุ 16 ปีเรียนหนังสือระดับ ปวช.ที่วิทยาลัยการอาชีพหลังสวน ชายคนกลาง อายุ15ปี เสียสละให้พี่สาวและน้องได้เรียนหนังสือ ส่วนตัวออกมาทำสวน และ หญิงคนสุดท้อง อายุ 9 ปี  เรียนชั้นประถมปีที่ 3 รร.บ้านน้ำตก ทั้งครอบครัวไม่มีที่ดินหรือบ้านเป็นของตนเอง มีฐานะยากจนมาก อดมื้อกินมื้อ ทั้ง 4 คนพ่อลูก ในขณะที่มีชายชราใจบุญในหมู่บ้าน ทราบเรื่องได้บริจาคที่ดินบนภูเขาสูง ให้ครอบครัวนี้ 2ไร่ 40 ตรว.เพื่อ ปลูกทุเรียน และ นายสันต์ ฉิมหาด นายก อบต.บางมะพร้าว ได้ประสานอำเภอหลังสวน ได้งบประมาณ 20,000 บาท สร้างบ้านหลังเล็กๆมีห้องเดียว ให้ พ่อลูก4 คน อาศัยอยู่ โดยเจ้าของที่ดินได้ทำเรื่องโอนที่ดินให้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

แต่เมื่อ10 เดือน ที่ผ่านมา ได้มีหนังสือ จาก สำนักงานบังคับคดี หลังสวน จ.ชุมพร ว่าได้ทำการยึดที่ดินของนายสุชล ที่รับบริจาคมาสร้างบ้าน และ ยึดบ้านที่ปลูกบนที่ดินดังกล่าวด้วย เพื่อนำไปขายทอดตลาด  ในหนังสือ บอกว่านายสุชลเป็นหนี้ บริษัทแห่งหนึ่ง จำนวน 4 แสนกว่าบาท และเจ้าหนี้ได้อาศัยคำพิพากษาของศาล ให้ยึดบ้านและที่ดิน ที่เป็นชื่อนายสุชล เพื่อขายทอดตลาด โดยกำหนดขายในวันที่ 13 พ.ค.64  นายสุชลได้เอาหนังสือให้ลูกอ่านให้ฟัง ถึงกับเป็นลม  เนื่องจากไม่เคยไปขอกู้เงิน หรือ ค้ำประกันอะไรให้ใครเลย จึงได้ออกสอบถามจาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนได้การว่า เมื่อ 9 ปีที่แล้ว ได้มีคนสนิทในครอบครัวของนายสุชล ได้ไปขอเช่าซื้อรถยนต์กระบะยี่ห้อหนึ่ง และกู้เงินจากบริษัทดังกล่าว สาขาหนึ่ง ใน จ.ชุมพร โดยมีหลักฐานบัตรประชาชนและลายมือชื่อของนายสุชล เป็นผู้ค้ำประกัน ต่อมาทราบเพียงแต่ คนสนิทได้ออกรถยนต์กระบะคันใหม่และ ไปเกิดอุบัติเหตุจนรถพังเสียหาย

จนกระทั่งมาทราบว่า คนสนิทที่ไปซื้อรถไม่เคยผ่อนชำระเลย  จนกระทั่งเวลาผ่านไป บริษัทได้ยื่นฟ้องศาลให้ผู้ซื้อและผู้ค้ำชำระหนี้ โดยที่นายสุชลไม่เคยได้รับหมายศาล เพราะที่อยู่ตามทะเบียนบ้านเป็นบ้านของคนสนิทต่อมาศาลจึงตัดสินให้ นายสุชล ชดใช้หนี้ จำนวน 4 แสนกว่าบาท แทนผู้ซื้อ และนำมาสู่การยึดบ้านที่ดินเพื่อขายทอดตลาด นายสุชลเมื่อทราบเรื่องได้พยายามวิ่งขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ แต่ทุกหน่วยงานบอกว่า เรื่องหมดอายุความที่จะอุทธรณ์หรือแก้ไขทางกฎหมายแล้ว เหลือแต่เพียงต้องไปประมูลซื้อบ้านที่ดินคืนจาก สนง.บังคับคดีหลังสวน ในวันที่ 13 พ.ค.64 เท่านั้น แต่นายสุชลก็จนปัญญาเพราะมียอดหนี้สูง ถึง 4 แสนกว่าบาท และ ไม่รู้ว่า จะต้องประมูลเท่าไหร่ ในเวลานี้มีเงินในชีวิตเพียงไม่ถึง 100 บาท

ผู้สื่อข่าวได้ประสานงานไปยัง สภาทนายความจังหวัดหลังสวน พบนายสุวิทย์ พลานชุน ประธานสภาทนายความจังหวัดหลังสวน  พร้อมทั้งนำตัวนายสุชลไปพบ เมื่อได้ดูรายละเอียด นายสุวิทย์ บอกว่า ในทางกฎหมายในคดีค้ำประกันไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว เพราะ เลยกำหนดที่จะขอแก้ไขคดี ที่สามารถยกข้อต่อสู้ได้ว่าไม่ใช่บุคคลที่ค้ำประกันตามสัญญา คงต้องไปต่อสู้ในการประมูลซื้อบ้านที่ดินคืนเท่านั้น นายสุชล ถึงกับคอตก น้ำตาคลอเบ้า 

นายสุชล ยังเล่าให้ฟังว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ลูกสาวคนสุดท้องอายุ 9 ขวบ ซึ่งรับทราบปัญหาของครอบครัวมาตลอดชีวิตตั้งแต่จำความได้ เป็นเด็กที่ไม่เคยมีความสนุกสนาน หน้าตาเศร้าหมองตลอดเวลา ได้เข้ามาพูดกับนายสุชลผู้เป็นพ่อว่า “พ่อเรามาตายกันทั้งครอบครัวเถอะ จะได้พ้นจากความลำบาก และได้ไปเกิดใหม่ อาจจะดีกว่าวันนี้ก็ได้”  ทำเอานายสุชล ถึงกับตกใจ บอกกับลูกว่า”อย่ายอมแพ้ อย่าท้อถอย ยังมีหนทางที่จะต่อสู้ได้” 

ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ ด.ญ.เล็ก (นามสมมุติ) ว่าทำไม ถึงคิดฆ่าตัวตายพร้อมพ่อ ก็ ได้รับคำตอบว่าไม่อยากเห็นบ้านที่ดินถูกยึด ถ้าตายไปอาจจะเกิดมาสบายกว่านี้ “ เมื่อถามว่า ถ้าบ้านโดนยึดจะฆ่าตัวตายไหม ด.ญ.เล็กนิ่งไม่ยอมตอบ จึงถามต่อไปว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร ด.ญ.เล็กบอกว่า อยากเป็นตำรวจ แต่ตอนนี้ไม่อยากให้บ้านถูกยึดจะได้มีที่อยู่ไว้เรียนหนังสือ” 

ด้าน นางนวลศรี บอกว่า”เด็กหญิงคนนี้เป็นเด็กที่เรียนเก่งขยันและ รักพ่อและพี่น้องมาก ส่วนท่านผู้ใจบุญอยากช่วยเหลือ เด็กหญิง9 ขวบและ ครอบครัวนี้สามารถช่วยได้ที่ บัญชี ธ.ออมสิน เลขที่ 020090458918 ชื่อบัญชี ด.ช.อภิเชษฐ์  ฤทธิรุตม์ อายุ 15 ปี ลูกชายคนกลาง ซึ่ง ผู้เป็นพ่อไม่สามารถใช้บัญชีตนเองได้เนื่องจากจะถูกอายัด แต่จะได้เอาเงินไปประมูลซื้อบ้านที่ดินกลับคืนมา ซึ่งคาดว่า ใช้เงินไม่น่าเกิน 2 แสน บาท เนื่องจากมูลค่าบ้านและที่ดิน ราคาเพียง สองแสนบาท เท่านั้น

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP สังคม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ