หญิง 66 ปี เสีย 50 ล้าน ถูกมิจฉาชีพโกงที่ดิน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กรณีหญิงวัย 66 ปี ถูกมิจฉาชีพโกงซื้อที่ดินรวม 4 แปลง มูลค่า 50 ล้านบาท ในย่านสายไหม เข้าพบทนายความเพื่อให้ช่วยตรวจสอบคนกลุ่มนี้ พบว่าเคยมีประวัติถูกดำเนินคดีฉ้อโกงหลายครั้ง ขณะที่ ทนายความพบพิรุธหลายอย่างที่เป็นเทคนิคล่อให้ผู้เสียหายตายใจ ก่อนจะพาผู้เสียหายโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน และ ให้โอนเงินส่วนต่างอีก 2 แสน 5 หมื่นบาท

ผู้เสียหาย คือ นางลัดดา สงวนบุญ วัย 66ปี  พร้อมลูกสาวและลูกชาย นำเอกสารการซื้อขายที่ดิน มาให้นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ ตรวจสอบ หลังถูกแก๊งมิจฉาชีพ 4-5 คนเข้ามาติดต่อซื้อที่ดินที่เธอประกาศขายจำนวน 3 แปลง มูลค่า 40 ล้านบาท

เธอเล่าว่า คนกลุ่มนี้เข้ามาติดต่อซื้อที่ดินช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บุคคลิกดูน่าเชื่อถือ อ้างว่าเป็นตัวแทนจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์  ต้องการซื้อที่ดินสร้างหมู่บ้าน   จากราคาประเมินที่ดินแปลงละประมาณ 6 ล้านบาท มิจฉาชีพเสนอให้ในราคา 3 แปลง 40 ล้านบาท

รักออนไลน์ !! หนุ่มใหญ่ โอนเงินกว่า 4 ล้าน ไม่เคยเจอหน้าสักครั้ง

"เหยื่อแชร์ลูกโซ่” วอน รัฐบาล ตั้งกองทุนยึดเงินคนโกงมาคืนผู้เสียหาย

 

เมื่อตกลงกัน  มีการนัดทำสัญญาซื้อที่ดิน 3 แปลง และนัดไปโอนกรรมสิทธิ์กัน  โดยตกลงกันว่าจะจากเป็นเช็คเงินสด แต่ระหว่างที่กำลังจะจ่ายเงิน มิจฉาชีพขอเปลี่ยนวิธีการจ่ายเงินเป็น ตั๋วสัญญาใช้เงินแทน  ในขณะที่กำลังจะไปเซ็นโอนกรรมสิทธิ์ มิจฉาชีพทำทีเป็นขอซื้อที่ดินเพิ่มอีก 1 แปลงในราคา 5 ล้านบาท  อ้างว่า อยากให้

เอกสารการโอนเห็นว่าที่ดิน มีทางเข้าออกจากถนนใหญ่ ทั้งที่จริงๆ 3 แปลงแรกที่ซื้อมีทางเข้าออกได้ไม่ต่างกัน โดยการซื้อขายแปลงที่ 4 เป็นการทำแบบหลอกๆ อ้างว่า เมื่อซื้อแล้วจะขายคืนให้ในราคาเดิม คือ 5 ล้านบาท และจะให้ค่าเสียเวลาเพิ่มอีก 5 ล้านบาท รวมเป็น 10 ล้านบาท หมายความว่า ทั้งหมด มิจฉาชีพหลอกว่าจะจ่ายเงินให้ผู้เสียหาย 50 ล้านบาท

ส่วนการจ่ายเงินเป็นการจ่ายโดยตั๋วสัญญา มิจฉาชีพ เอาตั๋วเงินมูลค่า 60 ล้านบาทมาจ่าย โดยบอกว่าให้ผู้เสียหายโอนเงินทอนคืนให้ 10 ล้านบาท อ้างว่า นี่เป็นส่วนต่างค่านายหน้าที่พวกเขาจะได้ แต่ เมื่อลูกสาวผู้เสียหายไปขึ้นเงิน พบว่า เช็คเด้ง  มิจฉาชีพอ้างว่า อาจต้องรอ 7-10 วันถึงจะขึ้นเงินได้  โดย ผู้เสียหายรอต่อไปถึงวันที่ 11 มีนาคม จึงไลน์ไปคุยกับบริษัทตั๋วเงิน ก่อนจะรู้ความจริงว่าตั๋วเงินที่มิจฉาชีพใช้เป็นตั๋วเงินปลอมที่ถูกยกเลิกไปแล้ว  จากนั้นจึงรีบย้อนกลับมาตรวจสอบที่สำนักงานที่ดิน พบว่า ที่ดิน 4 แปลงก็ถูกโอนออกไปแล้ว

ถัดจากนั้น ทั้ง 2 ฝ่าย ประสานและขอไกล่เกลี่ยคืนเงิน กัน วันที่ 8 เมษายน กลุ่มมิจฉาชีพตกลงจะชำระหนี้ให้ 2 ล้าน 5 แสนบาท ก่อน โดยออกเช็ค 3 ล้านบาทให้ โดยขอเงินทอนเป็นเงินสด 5 แสนบาท แต่ผู้เสียหายบอกว่าไม่มีเงินสดมากขนาดนัน้ จึงไปกดเงินให้แค่ 2 แสน 5 หมื่นบาท

จากนั้นเมื่อนำเช็คไปขึ้นเงิน พบว่า เช็คเด้ง หมายความว่านอกจากจะเสียที่ดิน 4 แปลงไปแล้ว ผู้เสียหายยังเสียเงินไปอีก  2 แสน 5 หมื่นบาทไปให้กับกลุ่มมิจฉาชีพ

ด้านทนายรัชพล บอกว่า พฤติกรรมทั้งหมดเข้าข่ายเป็นการฉ้อโกง มีพฤติกรรมหลายจุดที่แสดงเจตนาชัดเจน มั่นใจว่าสามมารถเอาผิดได้

พิกุลทองทรัพย์ อายุ 42 ปี เคยมีประวัติพัวพันกับคดีฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้ผู้อื่นยืมเงิน โดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด เมื่อปี 2562 แต่ในเอกสารซื้อขาย มิจฉาชีพใช้ชื่อปลอมทั้งหมด

 

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP สังคม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ