นศ.เชียงใหม่ถ่ายภาพคล้าย UFO เหนือดอยสุเทพ
สดร.แจงวัตถุลึกลับเหนือฟ้าที่เชียงใหม่ เป็น“โคมลอย”
“ซีไอเอ” ปล่อยเอกสารเกี่ยวกับ “ยูเอฟโอ” หลายพันหน้าให้เข้าถึงได้
เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานวฝ่า คลิปวิดีโอที่ กลุ่มเล่นเครื่องบินเล็กบังคับในจังหวัดกระบี่ บันทึกไว้ได้เมื่อเย็นวานนี้ (17 มิ.ย. 2564) เวลาประมาณ 17.30 น. บริเวณลานกิจกรรมด้านข้างสำนักงานเทศบาลเมืองกระบี่ โดยภาพดังกล่าวเป็นวัตถุบางอย่างที่อยู่บนท้องฟ้า เป็นวัตถุสีดำ มองเห็นจากระยะไกล ค่อย ๆ เคลื่อนตัวสูงขึ้นและหายไปในกลุ่มเมฆ ก่อนหายไป สร้างความประหลาดใจกับกลุ่มนักเล่นเครื่องบินบังคับและพารามอเตอร์อย่างมาก
นายคฑาวุธ หาญพานิช อายุ 35 ปี และ นายจักรพงศ์ งามขำ ซึ่งเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อเย็นวานนี้ โดยทั้งสองคนให้ข้อมูลบางส่วนที่คล้ายกัน คือ วัตถุดังกล่าวสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าชัดเจน มีขนาดใหญ่ประมาณรถบัส เป็นวัตถุสีดำ บินอยู่สูงจากพื้นคาดว่าประมาณ 1 กิโลเมตร และลอยผ่านไปแบบนิ่ง ๆ ไม่มีเสียง ก่อนจะเริ่มจางหายไปในอากาศ
มีเพียงข้อมูลเรื่องระยะเวลาที่ทั้งสองคนมองเห็นต่างกัน โดยนายคฑาวุธ บอกว่า วัตถุดังกล่าวเห็นนานประมาณ 3-4 นาที แต่นายจักรพงศ์แจ้งว่ามองเห็นประมาณ 30-40 นาที
นอกจากนี้ทั้งสองคนยังบอกว่า ประมาณ 8-10 ปีก่อน ก็เคยเห็นวัตถุลักษณะคล้ายกันนี้มาก่อนแล้ว แต่ครั้งนั้นเห็นที่บริเวณลานก่อสร้างโรงเรียน อบจ.กระบี่ โดยทั้งสองคนยืนยันว่าสิ่งที่เห็น ไม่น่าจะเป็นโดรนบังคับ หรืออากาศยานอื่น เพราะเล่นเครื่องเล่นพวกนี้อยู่ประจำ ทำให้แยกออกว่าใช่หรือไม่ จึงยืนยันว่าภาพที่เห็นนั้นไม่ใช่โดรน หรือเครื่องเล่นแน่นอน
ทีมข่าวได้สอบถามมุมมองของผู้เชี่ยวชาญเรื่องดวงดาว และปรากฏการณ์บนท้องฟ้า พันเอกนายแพทย์ พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา ประธานมูลนิธิจิตเป็นผู้ให้ใจเป็นนิพพาน และนายสธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความเห็นที่น่าสนใจไว้ 2 แง่มุม
โดยพันเอกนายแพทย์ พงศ์ศักดิ์ ระบุว่า จากคลิปไม่สามารถระบุแน่ชัดว่าเป็นอะไร แต่มีความเป็นไปได้ที่จะเป็น UFO มนุษย์ต่างดาว เพราะพิจารณาจากความเร็วและรูปแบบการเคลื่อนที่ สามารถยืนยันได้ว่าไม่ใช่เครื่องบินและโดรนแน่นอน และเมื่อหลายปีก่อน เคยมีคนพบเหตุการณ์ลักษณะนี้ที่จังหวัดกระบี่
"ถ้าในมุมมองของนักวิทยาศาสตร์ จากภาพที่เห็นก็ค่อนข้างจะสรุปว่า มันจะเป็นอากาศยานบอลลูนตรวจอากาศ ข้อหนึ่งที่สรุปอย่างนั้นก็เพราะว่า ลักษณะการเคลื่อนที่ค่อนข้างสม่ำเสมอนะครับ ถ้าเป็นลอยก็อาจจะลอยไปตามลมหรือเป็นเครื่องบินที่เคลื่อนที่ในทิศทางเดียวกัน" พันเอกนายแพทย์ กล่าว
ด้านอาจารย์สธน คาดว่า เป็นไปได้ทั้งบอลลูนตรวจอากาศ และ เฮลิคอปเตอร์ เพราะเคลื่อนที่ตามทิศทางลม แต่ให้น้ำหนักไปที่บอลลูนตรวจอากาศมากกว่า เพราะขนาดความเร็วใกล้เคียงกับบอลลูนตรวจอากาศ ประมาณ 20-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รวมไปถึง ระยะทางจากท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ไปถึงเทศบาลเมืองกระบี่ ประมาณ 10 – 15 กม. เป็นระยะที่ไม่ไกลที่บอลลูนตรวจอากาศสามารถไปได้ นอกจากนี้ ช่วงเวลาที่พบเห็นเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับเวลาที่สถานีตรวจวัดอากาศ ปล่อยบอลลูนตรวจอากาศ ความสูงที่คาดคะเนได้ ประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นระดับเดียวกับบอลลูนตรวจอากาศ
"แต่บางทีก็คาดเดา ดูว่ามันต่างกับเครื่องบินยังไง เครื่องบินก็จะบินเสมอ บินตรง แต่ถ้าเกิดเป็นยานอวกาศ มันก็จะบินบ้าง หยุดบ้าง เดินบ้าง เปลี่ยนทิศทางเลยบ้าง ลักษณะอย่างนี้เราก็สันนิษฐานว่า ถ้าอย่างนี้น่าจะเป็นวัตถุบินของจานบินของต่างดาวมากกว่า" อาจารย์สธน กล่าว
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังมองว่าปัจจุบันมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ยืนยันว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริง เพราะในอวกาศมีดาวเคราะห์ที่มีลักษณะคล้ายโลก ทั้งอุณหภูมิและดาวฤกษ์หลายดวง แต่สิ่งที่ไม่ทราบคือการเดินทางระหว่างดาว ในแต่ละระบบใช้เวลายาวนาน หากมนุษย์ต่างดาวมีเทคโนโลยีใกล้เคียงกับมนุษย์โลก จะต้องใช้เวลาเดินทางหลายร้อยปี ทำให้มีโอกาสที่มนุษย์ต่างดาวเดินทางมายังโลกเป็นไปได้ยาก