ทีมข่าว PPTV ลงพื้นที่บ้านของ น.ส.พิมพ์วิภา ทองไพวัน อายุ 30 ปี ใน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างไปแล้วประมาณ 30% วันนี้บ้านของเธอเริ่มเทพื้น มีโครงสร้างบ้าน เป็นรูปร่างมากขึ้น หลังเธอตัดสินใจจ้างช่างทีมใหม่เข้ามาก่อสร้าง
พิมพ์วิภา เล่าว่าหากย้อนไปเมื่อ 5 เดือนที่แล้ว ช่วงต้นเดือน ก.พ.64 เธอได้เซ็นสัญญาว่าจ้างกับตัวแทนผู้รับเหมา ของบริษัทรับเหมาสร้างบ้านรายหนึ่ง จากนั้นได้ทำการเซ็นสัญญาว่าจ้างกัน ผู้รับเหมาได้ทำการทุบบ้านหลังเก่าและขุดหลุมเพื่อตอกเสาเข็ม
แจ้งจับแก๊งหลอกรับเหมาเรียกเงินล่วงหน้านับล้านก่อนทิ้งงาน
ยาย 89 ปี โอดผู้รับเหมาทิ้งงานสูญเงินสร้างบ้านกว่า 1 ล้านบาท
แต่หลังจากตอกเสาเข็มได้เพียงต้นเดียวผู้รับเหมาก็ไม่ได้ก่อสร้างต่ออีกเลย แต่ยังขอให้เธอโอนเงินให้เรื่อยๆ อ้างว่าเป็นค่าจ้างช่าง ค่าวัสดุ แต่จนถึงวันนี้เวลาล่วงเลยมาแล้วเกือบ 5 เดือน เธอโอนเงินให้ผู้รับเหมากว่า 800,000 บาท แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าผู้รับเหมาจะเข้ามาก่อสร้างต่อให้
พิมพ์วิภา บอกว่าตั้งใจสร้างบ้านหลังนี้ให้คุณแม่ใหม่ จึงติดต่อผู้รับเหมาก่อสร้างรายนี้เพราะดูน่าเชื่อถือ มีแบบบ้านสวย มีผลงานที่โพสต์ในแฟนเพจมากมายจึงติดต่อไปและนัดทำสัญญากันในวันที่ 13 ก.พ. 64 ในราคาการก่อสร้าง 1.5 ล้านบาท ขนาด 125 ตรว.
ในสัญญาระบุว่าต้องชำระเงินงวดแรก 35% เป็นเงิน 520,000 บาท จากนั้นผู้รับเหมาได้ว่าจ้างช่างให้เข้ามาทุบบ้านหลังเก่าและตอกเสาเข็ม ซึ่งหลังจากขุดหลุมตอกเสาเข็มได้เพียงเสาเดียว ทางผู้รับเหมาก็ไม่จ่ายค่าแรงช่าง ทีมช่างจึงขนของย้ายออกไปไม่ได้ก่อสร้างต่อ
กลางเดือน ก.พ. ผู้รับเหมาต่อรองให้เธอโอนเงินค่าแรงไปให้ช่าง แล้วจะกลับมาสร้างบ้านต่อ ด้วยความเชื่อใจเธอจึงโอนเงินจ่ายไปเรื่อยๆตั้งแต่ 16 ก.พ. ถึง 8 เม.ย. รวมเป็นเงินกว่า 800,000 บาท เมื่อทวงถามก็มักต่อรองอ้างว่ากำลังเดือดร้อนเรื่องเงินและคอยหลบเลี่ยงเธอมาเรื่อยๆ
หลังจากนี้เธอจะรวบรวมหลักฐานและแจ้งความดำเนินคดีกับผู้รับเหมารายดังกล่าวเพราะถือว่าผิดสัญญาในการก่อสร้าง ซึ่งภายหลังเธอโพสต์เรื่องราวนี้ไปกลับมีผู้เสียหายกว่า 10 คนที่ได้รับความเสียหายคล้ายกันและผู้รับเหมาคนเดียวกัน แจ้งเรื่องราวมาพูดคุยและมีการตั้งกลุ่มรวมตัวกันขึ้น
เช่นผู้เสียหายอีกรายเป็นเจ้าของบ้านใน จ.น่าน คือนางอัมพร พรมไชย อายุ 41 ปี เล่าให้ทีมข่าวฟังว่าเธอตัดสินใจจ้างผู้รับเหมาคนเดียวกันปรับปรุงบ้านในราคา 1.1 ล้านบาท ตอนนี้ผู้รับเหมาดำเนินการก่อสร้างได้ประมาณ 30% ขอเบิกเงินทั้งหมด 17 งวด เป็นเงินทั้งหมด 686,000 บาท ซึ่งเธอเริ่มสงสัยหลังจากที่ผู้รับเหมาส่งใบเสร็จทำระค่าแผ่นพื้นแต่เมื่อไปสอบถามร้านจำหน่ายต้นทางทางร้านแจ้งความไม่ได้รับยอดเงินดังกล่าว เธอจึงตัดสินใจยกเลิกสัญญาและเข้าแจ้งความดำเนินคดี
ทีมข่าวพีพีทีวี โทรศัพท์ไปสอบถามผู้รับเหมาคนดังกล่าว โดยยอมรับว่ากรณีบ้านใน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เกิดความล่าช้าจริงเนื่องจากติดปัญหาเรื่องการเงินเนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิด19 ซึ่งเป็นเพียงงวดเดียวที่ตนหาเงินไม่ทันจึงขอจ่ายช้าไป 1 สัปดาห์ แต่ก็ไม่ได้หนีหายไปไหนยังติดต่อกับเจ้าของบ้านอยู่ตลอด
ผู้รับเหมา ยืนยันว่าหลังจากนี้ จะดำเนินการสร้างบ้านใน อ.นครชัยศรี ต่อให้จนเสร็จแต่ขอเวลาหาเงิน 1-2 วัน ส่วนกรณีบ้านที่ จ.น่าน ขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายเนื่องจากเจ้าของบ้านได้ยกเลิกสัญญาการก่อสร้างไปแล้วและเป็นคดีความกันอยู่ขณะนี้แต่อ้างว่ากรณีปัญหาที่เกิดขึ้นกับเจ้าของบ้านมีไม่ถึง 10 คน เพราะที่ผ่านมาตนรับงานไม่เกิน 10 หลัง
เช็กเลย! กทม.เคาะเยียวยา 5,000 บาท ให้ผู้ค้า 10,000 ราย บวกของรัฐบาล ได้ 8,000 บาท
ญี่ปุ่นให้วัคซีนไทย 1,050,000 โดส "แอสตร้าเซเนก้า" 2 ประเภท ภายใต้เงื่อนไข 5 ข้อ