หมอ แนะล็อกดาวน์ ชี้ตัวเลขติดเชื้อที่แท้จริงอาจจะมากกว่านี้ถึง 2 เท่า


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย เชื่อตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 มากกว่าที่เห็นมีหลายเท่า แนะใช้ล็อกดาวน์เป็นยาแรงก่อนคุมสถานการณ์ไม่อยู่

พล.อ.ท.นพ.อนุตตร จิตตินันทน์ ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย แนะควรใช้ยาแรงคุม เพื่อป้องการแพร่ระบาดโควิด-19 (Covid-19) ก่อนสถานการณ์จะแย่ลง โดยให้เหตุผลว่า ตัวเลขการติกเชื้อนั้น ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อสูงถึง 9,276 ราย ตัวเลขที่แท้จริงอาจจะมากกว่านี้ถึง 2 เท่า ชี้ล็อกดาวน์ต้องทำเข้มข้นในพื้นที่เสี่ยงสูง ให้ยึดโมเดลล็อกดาวน์ปี 63 ที่ช่วยให้ตัวเลขผู้ป่วยลดลง

ผู้ประกอบการท่องเที่ยวภูเก็ตรับยอดติดโควิดพุ่งกระทบความเชื่อมั่นนทท.
ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ จี้ รบ.เร่งนำเข้าวัคซีนทางเลือกทุกชนิด เปิดโอกาส ปชช.ได้เข้าถึง

ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ ชี้ให้ห็นถึงสถานการณ์โควิด-19 ที่มีผู้ป่วยจำนวนมากนอนรอการรักษาจนกระทั่งบางรายอาการหนักและเสียชีวิตโดยไม่ได้รับการรักษาใดๆ ถือว่า เป็นสถานการณ์ที่รุนแรง และเป็นเหตุผลที่สนับสนุนให้มีการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคด้วยมาตรการล็อกดาวน์ หรือ จำกัดการเคลื่อนย้ายของคน แม้จะเห็นใจและห่วงใยธุรกิจรายย่อยที่ค้าขายได้น้อยลง ขณะเดียวกันเห็นใจผู้ป่วยที่อาการหนักแต่ไม่ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ทำงานหนักมาก ถ้าไม่ล็อกดาวน์ เปรียบเหมือนคนไข้อาการหนักมากๆ แล้วถ้าไม่ตัดสินใจผ่าตัด หรือ รักษาด้วยยาแรง ประเทศหรือคนไข้คนนั้นก็จะไม่รอด

“คิดว่าถ้าควบคุมโรคไม่ได้ เศรษฐกิจก็ไปลำบาก คนเห็นตัวเลขแบบนี้ก็ไม่อยากไปไหนแล้ว การปิดกิจการก็อาจจะไม่คุ้มทุนด้วยซ้ำ การควบคุมโรคด้วยการทำให้จำนวนผู้ป่วยลดลงโดยเร็ว แล้วค่อยๆ ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ สถานการณ์น่าจะดีขึ้นทางด้านการแพทย์อย่างดียว ศรษฐกิจน่าจะค่อยๆ ฟื้นฟูขึ้นมาได้”

นอกจากนี้เห็นว่าควรล็อกพื้นที่มีการแพร่ระบาดรุนแรงอย่างเข้มข้น เพราะช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาที่มีการล็อกการคลื่อนไหวเฉพาะบางจุดของกรุงเทพมหานคร ทำให้เกิดการแพร่กระจายไปทั่วประเทศ

พล.อ.ท.นพ.อนุตตร ระบุด้วยว้า ถ้าไม่มีมาตรการอะไรที่เข้มข้นหยุดการแพร่เชื้อ คนที่มีอาการหรือความเสี่ยงกว่าจะได้รับการตรวจต้องตระเวนไปหลายโรงพยาบาล หรือบางทีไม่ได้รับการตรวจ ตัวเลขตรงนี้เหมือนกับเป็นยอดภูเขาน้ำแข็งที่มีภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่อยู่ข้างล่างซึ่งเราไม่รู้จำนวนจริงๆ ว่า เป็นจำนวนกี่เท่า

“ถ้าถามว่าล็อกดาวน์แล้วจะจบไหม คำว่าจบหมายถึงจบโควิด-19 ใน 2 สัปดาห์นี้ เป็นไปไม่ได้นะครับ แต่ถ้า 2 สัปดาห์นี้อย่างน้อยได้ลดการคลื่อนไหวแล้วทำให้จำนวนผู้ป่วยลดลงจะคลี่คลายเรื่องจำนวนผู้ป่วยที่นอนรพ. คลี่คลายเรื่องของผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษา เพราะตอนนี้ไม่ได้กระทบแต่ผู้ป่วยโควิด แต่ผู้ป่วยทั่วไปก็น่าสงสาร ผู้ป่วยที่ไม่สามารถข้ารับการรักษาได้ตามกำหนด ผู้ป่วยที่ควรจะได้เคมีบำบัดก็ไม่ได้รับการรักษา ผู้ป่วยโรคไตก็ไม่ได้รับการฟอกเลือด สิ่งเหล่านี้เต็มที่แล้วครับ จำเป็นที่จะต้องลดจำนวนผู้ป่วยขาเข้าโดยเร็ว เราจะเห็นผู้ป่วยเสียชีวิตมากกว่านี้”

ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ ยกตัวอย่าง ประเทศที่พยายามให้มีการเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจควบคู่กับการคุมการแพร่ระบาด แต่ในที่สุดแล้วเมื่อเวลาผ่านไปก็จะได้เรียนรู้ว่าไม่สามารถควบคุมโรคได้ จึงตัดสินใจให้มีการล็อกดาวน์ อย่างเช่นในอังกฤษ และ อิตาลี มีการล็อกดาวน์อย่างจริงจัง ซึ่งเห็นผลที่ผู้ป่วยลดลง ที่เห็นผลมากๆ คือ จีนที่อู่ฮั่นล็อกไม่ให้คนเข้า-ออกเลย จนสามารถควบคุมการระบาดจนกระทั่งสามารถเฉลิมฉลองกันได้ โดยที่คนไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัย โดยใช้ความเข้มงวดและระเบียบวินัยในการควบคุมคน

“การควบคุมโควิดของแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะพฤติกรรมของคนในชาตินั้น ถ้าเราทำแบบจีนอาจจะไม่ได้ผลแบบจีน เพราะกฎหมายเขาเด็ดขาดมาก เกาหลีเหนือก็เช่นกัน เขาซีลประเทศเด็ดขาดใครก็เข้าไม่ได้ และใครป่วยก็จะถูกลงโทษรุนแรง มันใช้กับทุกประทศไม่ได้ แต่ละประเทศต้องมีบริบทของตัวเองในการควบคุมในประเทศไทยที่ล็อกจริงจังเมื่อปีที่แล้ว เห็นจำนวนผู้ป่วยลดลงชัดเจน คิดว่าควรจะนำโมเดลในช่วงนั้นกลับมาใช้อีกครั้งหนึ่ง”       

ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ ทิ้งท้ายว่า หากมาตรการที่ออกมาเข้มข้นพอ จะคุมอยู่ใน 2 สัปดาห์ ดังนั้นการล็อกดาวน์ต้องล็อกดาวน์ทั้งมาตรการของรัฐที่ต้องดูแลให้มาตรการบังคับใช้ได้จริง ไม่ให้คนเคลื่อนไหวตลอดเวลา และ ประชาชนทั่วไปต้องร่วมมือด้วย

คอนเทนต์แนะนำ
รองโฆษกรัฐบาล เผย ยังไม่มีมติ “ล็อกดาวน์” รอศบค.แถลงหลังประชุมเสร็จ

TOP สังคม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ