นายธีรศักดิ์ เพ็ชรรักษา อายุ 22 ปี ชาวบ้านตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา พร้อมทนายความ หอบหลักฐานแจ้งผู้สื่อข่าว หลังงุนงงกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน กรณีถูกออกหมายเรียกจากสถานีตำรวจ 4 สถานีจำนวน 4 หมายเรียก ในคดีร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ มีมูลค่าความเสียหายกว่า 2.6 ล้านบาท ทั้ง ๆ ที่ตัวเองไม่รู้เรื่องใด
นายธีรศักดิ์ ให้ข้อมูลว่า ต้นเหตุน่าจะมาจากตนได้สมัครเล่นเกมพนันออนไลน์ ทางแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือ มีการกรอกข้อมูลส่วนตัว เลขบัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด และบัญชีธนาคาร
อิสราเอลพบ หญิงตั้งครรภ์ฉีดไฟเซอร์ช่วงอายุครรภ์ 27-31 สัปดาห์ให้ผลต่อเด็กดีสุด
สสจ.เพชรบูรณ์ รับถูกฉกประวัติผู้ป่วยที่ตกค้างในระบบคอมพ์ มือดีไม่ได้แฮกข้อมูลในเซิร์ฟเวอร์หลัก
หลังเล่นด้วยความเพลิดเพลิน ไม่ได้เล่นเอาจริงเอาจัง ปรากฏว่า อยู่ดี ๆ ก็มีหมายเรียกจากสถานีตำรวจมาถึงบ้าน กล่าวหาว่าตนไปร่วมกันฉ้อโกงเงินประชาชน เพราะว่า มีหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของตนเอง
นายธีรศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อไปตรวจสอบที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาวังน้ำเขียว ปรากฏว่า มียอดเงินโอนเข้าและถอนออกจากบัญชีตลอดเวลา มีการทำรายการภายในเวลา 2 วัน มากถึง 611 ครั้ง ยอดเงินเข้าบัญชีและถอนออกจากบัญชีอย่างรวดเร็ว รวม 2,590,545 บาท ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติมาก
เมื่อตรวจสอบเชิงลึกพบว่า บัญชีธนาคารของ นายธีรศักดิ์ ถูกนำไปใช้ในแอพพลิเคชั่นปล่อยกู้เงินด่วนในโทรศัพท์มือถือ โดยมีเงื่อนไขต้องหักค่าธรรมเนียม 15% ของยอดเงินกู้ ปรากฏว่ามีผู้หลงเชื่อยอมโอนเงินค่าธรรมเนียมเข้ามาในบัญชีจำนวนมาก แต่ไม่ได้รับยอดเงินกู้จริง ๆ เป็นการเปิดแอพลพลิเคชั่นหลอกลวงประชาชน จนกระทั่งมีผู้เสียหายจากหลายพื้นที่ไปแจ้งความ และตำรวจมีการออกหมายเรียก นายธีรศักดิ์ เจ้าของบัญชีไปสอบปากคำ
ด้าน นายวรเทพ สุขแก้ว ทนายความที่ดูแลคดีนี้ เผยว่า เป็นวิธีการที่แยบยลของมิจฉาชีพนำข้อมูลส่วนตัวและบัญชีธนาคารของ นายธีรศักดิ์ ไปทำการเปิดแอพพลิเคชั่นกู้เงินด่วน วงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ตั้งเงื่อนไขโอนเงินค่าธรรมเนียม 15% ก่อนปล่อยเงินกู้ มีผู้ต้องการเงินด่วนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ยอมโอนเงินค่าธรรมเนียมเข้าบัญชีธนาคารของนายธีรศักดิ์ รวมกว่า 2.6 ล้านบาท แต่ไม่มีการให้เงินกู้จริง ทำให้สถานะของนายธีรศักดิ์ ตกเป็นผู้ต้องหาร่วมในคดีฉ้อโกง
เชื่อว่าเป็นขบวนการเปิดเว็บพนันออนไลน์และแอพพลิเคชั่นกู้เงินด่วนหลอกลวงประชาชน ที่มีความเชื่อมโยงกัน สัปดาห์นี้จะนำหลักฐานไปแจ้งความที่ตำรวจกองปราบปราม เพื่อคลี่คลายคดีให้ชัดเจน และติดตามจับกุมมิจฉาชีพมาดำเนินคดีต่อไป
อย่างไรก็ตาม ฝากกรณีนี้เตือนภัยเป็นอุทาหรณ์ อย่าหลงกลไปเล่นเกมพนันออนไลน์ใด ๆ และเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวเข้าระบบคอมพิวเตอร์ เพราะมิจฉาชีพในโลกออนไลน์ทำได้แยบยลจริง ๆ