วันนี้ 15 ต.ค. 2564 ตัวแทนภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบแห่งประเทศไทย ตัวแทนกลุ่ม ECST ผู้สนับสนุนผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า และแอดมินเพจเฟซบุ๊ก "มนุษย์ควัน" ได้เดินทางมาเข้าพบ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และหารือแนวทางผลักดันบุหรี่ไฟฟ้าให้เป็นสินค้าที่จำหน่ายได้ตามกฎหมาย
“ชัยวุฒิ” ขอศึกษา ดันบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย ชี้ ลดอันตรายให้กับผู้สูบ
เครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้าท้ามูลนิธิรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ ดีเบต ข้อดี-เสีย “บุหรี่ไฟฟ้า”
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีดีอีเอส บอกว่า ตอนนี้กำลังศึกษาข้อกฎหมายเพื่อดึงบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาอยู่ในระบบให้ถูกต้อง กำลังดูว่ามีประเด็นติดขัดเรื่องอะไรบ้าง เชื่อว่าหากทำให้ถูกกฎหมายได้จะสามารถลดอันตรายให้กับผู้สูบระยะยาว เพราะบางคนไม่สามารถเลิกบุหรี่ได้ แม้จะมีการรณรงค์มาอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันก็ยังมีจำนวนผู้สูบบุหรี่อีกเกือบ 10 ล้านคน ซึ่งปัจจุบัน 67 ประเทศทั่วโลก ได้ยอมรับบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าถูกกฎหมายแล้ว เช่น อเมริกา จีน มาเลเซีย
รัฐมนตรีดีอีเอส บอกด้วยว่า การจะดึงบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาอยู่ในระบบนั้น ขึ้นอยู่กับว่าประเทศไทยและผู้กำหนดนโยบาย จะปรับตัวตามเทคโนโลยีได้แค่ไหน เพราะสุดท้ายถ้าไม่ปรับตัวก็จะเกิดปัญหา ทั้งการลักลอบจำหน่าย การสูญเสียรายได้จากภาษี การสูญเสียโอกาสและกระทบต่อรายได้ของเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบชาวไทย ไปจนถึงการลดผลกระทบต่อสุขภาพของนักสูบชาวไทยที่ไม่สามารถเลิกบุหรี่ได้
จากข้อมูลเมื่อ 3 ปีก่อนพบว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีมูลค่าการตลาดราวปีละ 6,000 ล้านบาท เติบโตปีละ 100-200% หากทำให้ ถูกกฎหมายจะทำให้ภาครัฐมีรายได้ และลดปัญหาการทุจริตคอรัปชันในการเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งถือว่าช่วง 7 ปีที่ผ่านมาเป็นความล้มเหลวในการบังคับใช้กฎหมาย เนื่องจากมีจำนวนผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น