คลิปที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก โพสต์ภาพชาย 2 คน กำลังแล่เนื้อสุนัข โดยที่ไม่สนใจคนรอบข้าง จากนั้น ยังได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า หลังเกิดเหตุ มูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ พร้อมกู้ภัย 4 ขา สมุทรปราการ ช่วยกันนำศพของสุนัขตัวนี้ไปประกอบพิธีทางศาสนา แต่ด้วยสภาพที่เน่าเหม็นและรอจนถึงเช้าไม่ได้ จึงต้องนำไปฝังกลบแทน
ทีมข่าวพบกับชายวัย 46 ปี ซึ่งนอนอยู่บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ ในสภาพคล้ายคนเมาสุรา ยอมรับว่า ตัวเองเป็นคนในคลิป พร้อมทั้งอ้างว่า วันเกิดเหตุเห็นสุนัขถูกรถจักรยานยนต์ชนก่อน
ตร. แว้ดใส่ปชช.แจ้งเหตุ "ผมมีงานล้นมือ"
2 ชายเร่ร่อน ชำแหละซากสุนัขกินริมถนน
จากนั้นมีรถยนต์ทับซ้ำ ตนเห็นว่าสุนัขตัวใหญ่จึงลากมาไว้ตรงที่เกิดเหตุ ก่อนจะมีเพื่อนเดินมาเห็นและบอกว่า ให้ช่วยแล่เนื้อสุนัขหน่อย ซึ่งเพิ่งแล่ไปได้นิดหน่อย ก็มีตำรวจมา เพื่อนจึงวิ่งหนีไป ก่อนตำรวจจะให้นำสุนัขใส่ถุงไปทิ้ง นายบุญส่งยืนยันว่า ตัวเองไม่ได้มีเจตนาที่จะรับประทานสุนัขตัวนี้ แต่เพราะความเมา และอยากช่วยเพื่อนจึงช่วยแล่สุนัขให้
ทั้งนี้ ชายเร่ร่อน คนดังกล่าว ยังบอกว่า ตัวเองไม่ได้ทำผิดอะไรมาก แต่หากจะเอาผิด คนที่ต้องรับผิดชอบควรเป็นรถจักรยานยนต์ที่ขี่ชนคันแรก และรถยนต์ที่เหยียบซ้ำ โดยส่วนตัวมาเร่ร่อนที่นี่ได้ 6 เดือน แล้วเพราะตกงาน และเดิมเป็นพนักงานส่งของ และพนักงานต้อนรับของคอนโดแห่งหนึ่ง และปัจจุบันก็ทำอาชีพ ปล่อยเช่าพระ และขายเสื้อผ้า
นายกฯ รับทราบ "โอมิครอน" โผล่ในไทยรายแรก ขออย่าตื่นตระหนก
ครอบครัวนัดกันผูกคอตาย ถูกเจ้าหนี้ยึดที่ดิน
ด้านเจ้าของสุนัข ยังไม่พร้อมให้ข้อมูล เพราะยังทำใจไม่ได้ แต่ประสานกับมูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ และกู้ภัย 4 ขา สมุทรปราการ เรียบร้อยแล้ว โดยย้ำว่า ไม่ติดใจเอาความกับชายเร่ร่อนกลุ่มนี้