เพจเฟซบุ๊กกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.)แจ้งเตือน
“จากทะเลมาปทุมธานี หมึกบลูริงพิษร้ายระวังด้วยจ้า”
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 กรม ทช. โดยสถาบันวิจัย ทช. รับแจ้งจากคุณจันทรา พุ่มแจ่ม แจ้งพบหมึกบลูริง เสียบไม้ปิ้งขายในตลาดนัดตอนเย็น พื้นที่ จ.ปทุมธานี แม้ว่าหมึกย่างจะอร่อยมากก็จริง ยิ่งเจอน้ำจิ้มรสเด็ดยิ่งแจ่ม
แต่ให้สังเกตเพิ่มกันหน่อย ทั้งพ่อค้าแม่ค้าคัดแยกให้ดีก่อนเอามาปรุงอาหารขาย ลูกค้าก็เช่นกันก่อนบริโภคสังเกตลายสักนิด
"ถ้าพบหมึกมีลายเป็นวงๆ สีน้ำเงินทั่วตัวจนไปถึงเส้นหมวด ให้หลีกเลี่ยงด่วน"
"อันตรายมากเพราะพิษของหมึกชนิดนี้ แม้ปรุงสุกก็ไม่สลาย ยังมีอันตราย พิษนี้ทนความร้อนได้สูงถึง200 องศาเซลเซียส ดังนั้น แม้ย่างสุกก็ไม่สามารถทำลายพิษได้ ปัจจุบันยังไม่มียาแก้พิษใดๆ ต่อต้านได้"
อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรกพี่พบหมึพิษ หมึกบลูริงวางขายเป็นอาหาร
สธ. เผยอันตรายจาก "หมึกบลูริง" ยันยังไม่มีคนไทยโดนกัดหรือได้รับพิษ
ระวัง “หมึกบลูริง” วางขายปะปน กระบะหมึกทะเล
กระทรวงสาธารณะสุขเคยออกประกาศเตือน" หมึกบลูริง พิษแรงกว่างูเห่า 20 เท่า"
จากกรณีเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2563 ผู้บริโภครายหนึ่งชื่อหมึกสาย จากตลาดใสบ้านเพื่อนำมารับประทาน แต่สังเกตพบว่ามีหมึกสายหนึ่งตัวลักษณะต่างจากปกติ คือมีวงแหวนสีน้ำเงิน ตามลำตัวและหนวด ซึ่งทราบว่าคือหมึกบลูริงที่มีพิษรุนแรง และอันตรายต่อชีวิต
หมึกสายวงน้ำเงินหรือหมึกบลูริง เป็นหมึกสายวงฟ้าเป็นสัตว์ที่ไม่ดุร้าย แต่มีพิษรุนแรง มีลักษณะเด่นคือ มีลวดลายเป็นวงแหวนสีน้ำเงิน กระจายตามลำตัวและหนวด ซึ่งจะตัดกับสีของลำตัวที่ออกป็นสีเหลืองน้ำตาลอย่างชัดเจน วงแหวนสีน้ำเงินสามารถเรืองแสงได้เมื่อถูกคุกคาม
หมึกบลูริง กัดเพื่อปล่อยพิษ พิษร้ายอยู่ที่น้ำลาย ผู้ถูกกัดตายภายใน2-3นาที ฆ่าคน 26คนในคราวเดียว
"พิษของหมึกบูลริง เรียกว่าเตโตรโดท็อกซิน(Tetrodotoxn) เป็นพิษชนิดเดียวกับที่พบในปลาปักเป้า โดยออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท จึงทำให้คนที่ถูกพิษมีอาการคล้ายเป็นอัมพาต หายใจไม่ออก เนื่องจากกล้ามเนื้อกระบังลมและหน้าอกไม่ทำงาน ทำให้ไม่สามารถนำอากาศเข้าสู่ปอด เป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตได้"
สธ.แนะนำให้ผู้บริโภคสังเกตลักษณะหมึก และหากพบว่าหมึกลักษณะผิดปกติตามที่กล่าวมาข้างต้น
ไม่ควรสัมผัสหรือรับประทาน และควรนำไปทิ้ง กรณีสัมผัสหรือรับประทานหมึกและมีอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์ทันที