(ข่าวแนะนำ)
ไขมันสีน้ำตาล ทางออกของการลดน้ำหนัก
อาหารต้านเครียด! เพราะของกินจะเยียวยาทุกอย่าง
ข้อเข่าเสื่อม(Knee Osteoarthritis) คือภาวะผิวกระดูกอ่อนบริเวณข้อเข่าซึ่งทำหน้าที่รับแรงกระแทกและแรงเสียดทานเกิดการบาดเจ็บหรือฉีกขาด นำไปสู่อาการข้อเข่าปวด บวม อุ่น ข้อยึดติด เคลื่อนไหวข้อลำบาก ลุกยืนไม่ไหว มีเสียงในข้อเข่าจนถึงมีอาการข้อเข่าโก่งผิดรูป
ใครคือกลุ่มเสี่ยงของโรคข้อเข่าเสื่อม
- อายุมากกว่า 45 ปี โดยมักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
- น้ำหนักตัวมาก มีค่าดัชนีมวลกาย > 25 กิโลกรัม/เมตร2
- ชอบทำกิจกรรม/งานที่ทำประจำในท่านั่งย่อ นั่งกับพื้น นั่งพับเพียบ นั่งไขว่ห้าง ยกของหนักตลอดจนกิจกรรมที่มีแรงกระแทกต่อเข่าเป็นระยะเวลานานและบ่อยๆ เช่น วิ่งมาราธอน, นักกีฬาฟุตบอล เป็นต้น
- มีโรคข้ออักเสบอื่นๆร่วมด้วย เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (rheumatoid arthritis) หรือโรคเกาต์ (gout)
จะการรักษาข้อเข่าเสื่อมได้อย่างไร
การรักษาข้อเข่าเสื่อม ประกอบไปด้วยการรักษาประคับประคอง และการรักษาโดยการผ่าตัดในกรณีที่รักษาแบบประคับประคองไม่ได้ผล
การรักษาประคับประคอง เริ่มต้นแก้ไขที่ต้นเหตุโดยเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงทั้งหมดที่ทำให้เกิดข้อเข่าเสื่อมให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ เช่น ลดน้ำหนัก, หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องงอเข่ามากๆนานๆ งดการขึ้นลงบันไดวันละหลายๆรอบ ควบคุมการอักเสบของโรคข้ออักเสบอื่นๆ ต่อมาควรออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรงโดยเฉพาะกล้ามเนื้อหน้าเข่าและกล้ามเนื้อหลังเข่าอย่างถูกวิธี เพื่อให้กล้ามเนื้อเหล่านี้ช่วยพยุงข้อเข่าและลดแรงกระแทกที่กระทำต่อเข่า หากมีอาการปวดมากสามารถใช้ยาลดอาการปวดและยาลดการอักเสบเป็นช่วงเวลาสั้นๆได้ แต่ไม่ควรทานติดต่อกันเป็นเวลานานเพราะยาเหล่านี้มักมีผลข้างเคียงอื่นๆแถมมาด้วย เช่น ความดันขึ้น ไตวาย เลือดออกในทางเดินอาหาร
หากกังวลถึงผลข้างเคียงของยา สามารถทำกายภาพเพื่อลดอาการปวดและเพิ่มการเคลื่อนไหวของข้อ เช่น การฝังเข็มคลายกล้ามเนื้อ(Dry needling) เลเซอร์ลดปวด(High Power Laser Therapy) ความร้อนบำบัด(Therapeutic heat)
นอกจากนั้นยังมีการฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่าเทียม ซึ่งเป็นสารที่ผลิตเลียนแบบน้ำข้อเข่าที่มีในธรรมชาติ นอกจากช่วยในการหล่อลื่นและลดแรงกระแทกที่กระทำต่อเข่าทำให้การเคลื่อนไหวดีขึ้น เสียงในข้อเข่าลดลงแล้ว ยังสามารถชะลอการเสื่อมและกระตุ้นให้ผิวข้อเข่ามีการซ่อมแซมตัวเองได้อีกด้วย โดยการฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่าเทียม เพียงหนึ่งคอร์ส ฤทธิ์ของยาสามารถอยู่ได้นาน 6 เดือนถึง 1 ปี อีกทั้งยังแทบไม่มีผลข้างเคียงจากการฉีด เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีข้อเข่าเสื่อมในระยะเริ่มแรกเป็นต้นไป หากมีอาการไม่มากอยากทานอาหารเสริมบำรุงข้อเข่า อาหารเสริมกลุ่มกลูโคซามีน(glucosamine), คอนดรอยตินซัลเฟต(Chondroitin Sulfate) หรือคอลลาเจนชนิดที่ 2(Type II collagen) เป็นอาหารเสริมอีกกลุ่มหนึ่งที่สามารถช่วยลดอาการเข่าเสื่อมทั้งในแง่การปวดและชะลอการเสื่อมของข้อเข่าได้ ซึ่งผลข้างเคียงจากการใช้ยาน้อย แต่ควรระวังการใช้ในคนไข้ที่มีโรคประจำตัวมากหรือทานยาหลายชนิดอยู่แล้ว
6 สิ่งควรทำ เพื่อลดความเสี่ยงการเป็น "โรคอัลไซเมอร์"
หากใครมีอาการปวดเข่าและสงสัยว่าอาจจะเป็นข้อเข่าเสื่อม ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อความแน่ใจและได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ป้องกันไม่ให้โรคลุกลาม เพราะยิ่งได้รับการรักษาเร็วเท่าไหร่ ยิ่งเป็นการดูแลข้อเข่าให้ใช้ได้นานยิ่งขึ้นเท่านั้น