วัคซีนโควิดเข็มแรกอาจไม่ทัน 14 ก.พ.
"คนอ้วน" มีสิทธิก่อน บอร์ดฯเคาะ ได้ฉีดวัคซีนโควิด ก่อนใคร ก.พ. เปิดลงทะเบียน
หมอ เผย ไทยไม่มีผลยืนยัน พบเชื้อโควิด-19 ในน้ำอสุจิ
วันที่ 29 ม.ค. งานวิจัยชิ้นใหม่ในวารสาร Reproduction ระบุว่า หากติดเชื้อโควิด-19 อาจทำลายคุณภาพของเชื้ออสุจิ และลดภาวะเจริญพันธุ์ในผู้ชาย เพราะสามารถทำให้เซลล์อสุจิตาย เกิดการอักเสบ และภาวะเครียดออกซิเดชัน (Oxidative Stress: ภาวะความไม่สมดุลของการเกิดอนุมูลอิสระ และกระบวนการป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระโดยสารต้านออกซิเดชัน)
นักวิจัยผู้เขียนรายงานดังกล่าวบอกว่า “การค้นพบนี้เป็นหลักฐานจากการทดลองโดยตรงครั้งแรกที่บ่งชี้ว่า ระบบสืบพันธุ์เพศชายอาจได้รับความเสียหายจากโควิด-19”
โดยทั่วไปเป็นที่ทราบกันดีว่า โควิด-19 เป็นสาเหตุของโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุและผู้ที่ป่วยโรคเรื้อรังอยู่แล้ว เท่าที่มีการค้นพบ โควิด-19 จะโจมตีปอด ไต ลำไส้ และหัวใจ
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนแสดงความคิดเห็นว่า ความสามารถของไวรัสโควิด-19 ในการลดภาวะเจริญพันธุ์ในผู้ชายยังไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างแน่ชัด เพราะวิธีการทดลองยังขาดความน่าเชื่อถือ
รายงานดังกล่าวระบุว่า โควิด-19 สามารถติดเชื้อในอวัยวะสืบพันธุ์ของผู้ชายได้ ทำให้การพัฒนาของเซลล์อสุจิลดลง และขัดขวางฮอร์โมนควบคุมระบบสืบพันธุ์
เบห์ซาด ฮาจิซาเดห์ มาเลคี และบักห์ติยาร์ ทาร์ทิเบียน จาก Justus-Liebig-University ในประเทศเยอรมนี พยายามทำการทดลองเพื่อหาหลักฐานทางชีวภาพที่อาจบ่งบอกถึงผลเสียของโควิด-19 ต่อภาวะเจริญพันธุ์ของผู้ชาย
ทั้งคู่ทำการทดลองเป็นเวลา 60 วันในผู้ชาย 84 คนที่ติดเชื้อโควิด-19 แล้วนำข้อมูลมาเปรียบเทียบกับข้อมูลของผู้ชายที่มีสุขภาพแข็งแรง 105 คน
ทั้งคู่พบว่า ในผู้ป่วยโควิด-19 เซลล์อสุจิมีสัญญาณแสดงการอักเสบและภาวะเครียดออกซิเดชันเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นความไม่สมดุลของสารเคมีที่สามารถทำลายดีเอ็นเอและโปรตีนในร่างกายได้
มาเลคีบอกว่า ยิ่งโรครุนแรงมากเท่าไหร่ผลกระทบก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น พร้อมเรียกร้องว่า องค์การอนามัยโลกควรประกาศให้ระบบสืบพันธุ์เพศชายเป็นอวัยวะที่มีความเสี่ยงได้รับความเสียหายจากโควิด-19 สูง”
ผู้เชี่ยวชาญที่ไม่เกี่ยวข้องกับการศึกษาแสดงความยินดีกับผลการวิจัย แต่เตือนว่า จำเป็นต้องมีการทดลองมากกว่านี้ ก่อนที่จะสรุปผลอย่างเป็นทางการ
อลิสัน แคมป์เบล ผู้อำนวยการด้านตัวอ่อนของกลุ่มผู้มีบุตรยากในอังกฤษตั้งข้อสังเกตว่า “ผู้ชายไม่ควรตื่นตระหนกเกินควร ... ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดขึ้นในระยะยาวจากโควิด-19 ต่ออสุจิหรือศักยภาพในการสืบพันธุ์ของผู้ชาย”
เธอกล่าวเสริมว่า ผลการวิจัยอาจไม่ถูกต้อง เนื่องจากผู้ชายที่ฟื้นตัวจากโควิด-19 ได้รับการรักษาด้วยยาคอร์ติโคสเตียรอยด์และยาต้านไวรัส ในขณะที่กลุ่มควบคุมไม่ได้รับ ทำให้ผลการทดลองที่ได้อาจเกิดจากการใช้ยา ไม่ใช่โควิด-19
ดร.แจนนา จายาเซนา ที่ปรึกษาด้านต่อมไร้ท่อและวิทยาทางระบบสืบพันธุ์ของราชวิทยาลัยลอนดอนกล่าวว่า “การป่วยจากไวรัสใด ๆ เช่น ไข้หวัดทั่วไป ก็สามารถทำให้จำนวนอสุจิลดลงชั่วคราว (บางครั้งเป็นศูนย์) เป็นเวลา 2-3 สัปดาห์หรือหลายเดือน ซึ่งทำให้ยากที่จะทราบว่าการลดลงของอสุจิที่พบในการศึกษานี้เป็นเพราะโควิด-19 จริง หรือเป็นผลจากความเจ็บป่วยตามปกติ”
ด้านอัลลัน พาซีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ชายแห่งมหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์ได้เตือนให้ระวังเกี่ยวกับวิธีตีความข้อมูล
เขาบอกว่า ตัวบ่งชี้คุณภาพของอสุจิที่ลดลงอาจเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ นอกเหนือจากโควิด-19 เช่นว่าในกลุ่มตัวอย่างผู้ชายที่ติดโควิด-19 มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน
กระนั้น พาซีย์กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกหากโควิด-19 อาจมีผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์เพศชายจริง “เนื่องจากตัวรับ ACE2 หรือ ตัวรับเดียวกับที่ไวรัสใช้เพื่อเข้าถึงเนื้อเยื่อของปอดก็พบได้ในอัณฑะเช่นกัน”
ภาพจาก Shutterstock
