สธ.ชี้แจงกรณีไทยไม่ได้รับวัคซีน COVAX ฟรี


โดย PPTV Online

เผยแพร่




สธ.ชี้แจงไทยตกขบวนวัคซีนโควิด-19 จากโครงการโคแวกซ์ (Covax) ขององค์การอนามัยโลก ที่แจกจ่ายกว่า 2,000 ล้านโดสให้กับประเทศยากจนทั่วโลก โดย 9 ชาติ ในสมาชิกอาเซียน ภายในเดือนมิถุนายนนี้

“อนามัยโลก” ประกาศทุกคนจะได้วัคซีนป้องกันโควิด-19 วอนอย่าตื่นตระหนก

1 ใน 4 ของประชากรโลกต้องรอวัคซีนโควิด-19 ไปจนถึง 2022

ทีมข่าวพีพีทีวี ได้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ กับนพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข  ได้เปิดเผยว่า อันดับแรกอยากจะชี้แจงว่า ประเทศไทย ไม่ได้ถูกปัดตกขบวนรับวัคซีนฟรีจาก COVAX แต่ไทยกำลังพิจารณาอย่างหนัก เนื่องจาก อย่างแรกไทยไม่เข้าข่ายได้รับความช่วยเหลือเรื่องวัคซีนฟรี หรือซื้อในราคาถูก เพราะรายได้ของไทยอยู่ในระดับปานกลาง ,ทำให้ไทยต้องจ่ายเงินซื้อวัคซีนเองในราคาสูง, และไม่ระบุวันเวลาที่แน่ชัดสำหรับการรับวัคซีน, ต้องจ่ายเงินจองล่วงหน้าไปก่อนแต่ไม่ทราบแหล่งที่มาของผู้ผลิต

โดยเงื่อนไขการจองระบุว่า 1.จองซื้อแบบไม่เลือกประเทศผู้ผลิต ต้องเสียค่าธรรมเนียมราคา 1.6 Usdโดส หรือประมาณ  48 บาท 2.จองซื้อแบบเลือกประเทศผู้ผลิต ในราคา 3.5 USD/โดส หรือประมาณ  105 บาท และหากสั่งจอง จ่ายเงินไปแล้ว ราคาสุดท้ายที่ผู้ผลิตจะขายให้ อาจมีการขึ้นราคาเพิ่ม, หากตัดสินใจไม่เอา ไม่สามารถขอเงินคืนได้,การทำสัญญา จะทำสัญญาจองซื้อในหน่วยงานกลางระหว่างประเทศ ไม่ได้ทำสัญญากับผู้ผลิตโดยตรง จึงอาจทำให้เกิดปัญหาข้อกฎหมายในอนาคตได้

นพ.ศุภกิจ  มองว่าข้อตกลงดังกล่าว ทำให้ทางไทยเสียเปรียบในหลายด้าน  แต่ทั้งนี้ไทยกับCOVAX ยังคงเจรจากันอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ทางไทยจะไม่ได้จองซื้อวัคซีน COVAX แต่ยังมีวัคซีน AstraZeneca ที่สั่งจองล่วงหน้าไปแล้วจำนวน 26 ล้านโดส และจะนำงบประมาณจากการไม่ได้จองซื้อกับCOVAX ไปซื้อเพิ่มกับ AstraZeneca ที่มีราคาถูกกว่า ประมาณ 35 ล้านโดส ซึ่งจะเพียงพอต่อประชากรในประเทศแน่นอน

นอกจากนี้ความคืบหน้าเรื่องไทยกำลังเป็นฐานการผลิตวัคซีนในกลางปี 64 นี้  ตอนนี้ทุกภาคส่วนกำลังเร่งวิจัย และตรวจสอบมาตรฐานการผลิตอย่างเร่งด่วน และคาดว่า ช่วงปลายเดือนพ.ค-มิ.ย ปี64 จะเริ่มผลิตวัคซีนจำนวน 200 ล้านโดสในประเทศ และต่อยอดเพิ่มการผลิตสำหรับขายในภูมิภาคเอเชียในอนาคต

นอกจากนั้นขณะนี้กำลังเข้าสู่ช่วงเทศกาลตรุษจีน การพบผู้ใหญ่ในครอบครัวเป็นเรื่องที่ดี แต่ในภาวะวิถีใหม่ New Normal ต้องยังคงรักษาระยะห่าง แม้ผู้สูงอายุจะไม่มีโรคประจำตัว ก็ต้องระมัดระวังเพื่อป้องกันโรคให้ผู้อาวุโสภายในบ้านให้ดีที่สุด เวลาออกนอกบ้านกลับเข้ามาควรรีบอาบน้ำ และสวมหน้ากากให้เป็นประจำที่สุด การรับประทานอาหารร่วมกันควรแยกสำรับ พยายามรักษาระยะห่างให้ได้ หากจะพูดคุยก็ควรสวมหน้ากาก หรือใช้การสื่อสารผ่านแอปพลิเคชันแบบเห็นหน้ากันได้ เพื่อลดการสัมผัสและการแพร่กระจายเชื้อ

ส่วนที่จังหวัดเชียงราย พันเอก สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ยังคงสั่งการให้เจ้าหน้าที่่ทหารในสังกัดดำเนินการออกลาดตระเวนและเฝ้าระวังตามจุดเสี่ยง ซึ่งเป็นช่องทางธรรมชาติตลอดแนวชายแดนไทย-เมียนมา อย่างเข้มงวด แม้ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายจะไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มเติมมาได้กว่า 15 วันแล้ว แต่เพื่อป้องกันการนำเชื้อจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งยังพบว่ามีการตรวจพบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง เข้ามาแพร่เชื้่อภายในประเทศ โดยมีการเสริมกำลังมากกว่า 2 กองร้อยสับเปลี่ยนกำลังเฝ้าระวังชายแดนตลอด 24 ชั่วโมง

 

TOP สุขภาพ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ