สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐได้ให้การอนุมัติวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินแล้วเมื่อวันเสาร์ (27 ก.พ.) ส่งผลให้วัคซีนของ J&J เป็นวัคซีนตัวที่ 3 ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้งานเป็นกรณีฉุกเฉิน (EUA) ในสหรัฐ ตามหลังวัคซีนของไฟเซอร์-บิออนเทค และของโมเดอร์นา
สหรัฐจ่ออนุมัติวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน
นาทีประวัติศาสตร์! ฉีดเข็มแรก วัคซีนโควิด-19 "อนุทิน" ประเดิม "ซิโนแวค"
สำหรับวัคซีนของ J&J คือวัคซีน "Ad26.COV2.S" หรือ "JNJ-78436735" พัฒนาโดยแจนส์เซน ซึ่งเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน สำหรับภารกิจป้องกันโรคโควิด-19 ภายในประเทศ และยังเป็น "วัคซีนที่ใช้ฉีดเพียงเข็มเดียว" ซึ่งจะถูกใช้งานในสหรัฐเป็นตัวแรก และจะได้รับอนุญาตให้แจกจ่ายให้กับผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
โดยผลการวิจัยทางคลินิกในระยะที่สาม ซึ่งดำเนินการทั่วโลกโดยอาศัยกลุ่มตัวอย่าง 44,000 คน โดยวัคซีนสามารถลดการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลได้ 100% ภายในระยะเวลา 28 วันหลังรับการฉีดวัคซีน แต่หากคำนวณภายในกรอบเวลา 14 วัน จะมีประสิทธิผลป้องกันได้ 85% ขณะเดียวกัน ประสิทธิผลรวมอยู่ที่ 66.1% ในการต่อต้านโควิด -19 ในระดับปานกลางถึงรุนแรง
นอกจากนี้ วัคซีนโควิด-19 ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ที่ฉีดเพียงครั้งเดียวและสามารถเก็บได้ในตู้แช่เย็นทั่วๆไป ยังประหยัดต้นทุนได้ดีกว่า และ ขนส่งได้ง่ายกว่า เมื่อเทียบกับวัคซีนของไฟเซอร์ และ โมเดอร์นา ที่ FDA อนุมัติการใช้งานไปก่อนหน้านี้