อียูยันวัคซีนแอสตราฯ ไม่เกี่ยวลิ่มเลือดตัน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หน่วยงานกำกับดูแลยาของสหภาพยุโรประบุ ไม่พบข้อบ่งชี้ว่าวัคซีนต้านโควิด-19 ของแอซตราเซเนกามีความเกี่ยวข้องกับภาวะลิ่มเลือดอุดตัน

5 ประเทศยุโรประงับใช้วัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาล็อต ABV5300

9 ประเทศยุโรประงับใช้วัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกา หลังพบเคสลิ่มเลือดอุดตัน

องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) ยืนยันว่า นับจนถึงตอนนี้ยังไม่พบข้อบ่งชี้ว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทแอสตราเซเนกา และมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ทำให้ความเสี่ยงในการเกิดภาวะการแข็งตัวของเลือดในหลอดเลือดดำเพิ่มขึ้น โดยอัตราการเกิดภาวะการแข็งตัวของเลือดในหลอดเลือดดำของผู้ที่รับวัคซีนแอสตราเซเนกา ไม่ได้สูงไปกว่าจำนวนผู้ป่วยในกลุ่มคนทั่วไป เนื่องจากพบกรณีการเกิดภาวะดังกล่าว เพียง 30 คนเท่านั้น จากประชากรยุโรปกว่า 5 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนของแอสตราเซเนกาแล้ว

นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่า ประโยชน์ของวัคซีนยังมีมากกว่าความเสี่ยง และยังสามารถใช้วัคซีนตัวนี้ต่อไปได้ ขณะที่การสอบสวนรายงานการแข็งตัวของเลือดในหลอดเลือดดำยังคงดำเนินต่อไป 

แถลงการณ์ขององค์การยาแห่งสหภาพยุโรปมีขึ้นหลังจากที่หลายประเทศได้ประกาศระงับใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกาชั่วคราว จากที่มีรายงานภาวะแข็งตัวของหลอดเลือดในผู้ที่ได้รับวัคซีนบางราย และมีชายวัย 50 ปีรายหนึ่งเสียชีวิตในอิตาลีเนื่องจากภาวะดังกล่าวก่อนหน้านี้  โดยเดนมาร์ก นอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ ได้ระงับการฉีดทั้งหมด ขณะที่ประเทศอื่นๆ หยุดใช้งานวัคซีนเป็นบางล็อต  ส่วนไทย ถือเป็นประเทศแรกนอกยุโรปที่ประกาศชะลอฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกา

ทั้งนี้ มีหลายประเทศที่ออกมายืนยันถึงความปลอดภัยของวัคซีนแอสตราเซเนกา เช่น อังกฤษ หน่วยงานกำกับดูแลยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (MHRA) ระบุว่าไม่มีหลักฐานว่าวัคซีนทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว และประชาชนก็ยังควรไปรับการฉีดวัคซีนตามที่ได้รับแจ้ง

เช่นเดียวกับกระทรวงสาธารณสุขของแคนาดาที่ออกแถลงการณ์ว่า กระทรวงทราบถึงรายงานเกี่ยวกับอาการไม่พึงประสงค์หลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาในยุโรป และขอยืนยันกับชาวแคนาดาว่าประโยชน์ของวัคซีนยังคงมีมากกว่าความเสี่ยง

ขณะเดียวกัน บริษัทเวชภัณฑ์ ไดอิจิ ซังเกียว ที่ได้รับสิทธิ์ในการผลิตวัคซีนของแอสตราเซเนกาในญี่ปุ่น ได้เริ่มการผลิตวัคซีนวันนี้ พร้อมระบุว่าจะส่งมอบให้รัฐบาลทันทีที่วัคซีนได้รับการอนุมัติใช้งานจากกระทรวงสาธารณสุข

ญี่ปุ่นบรรลุข้อตกลงซื้อวัคซีนกับแอสตราเซเนกา จำนวน 120 ล้านโดส ซึ่งทั้งหมดจะผลิตในประเทศ โดย 30 ล้านโดส ผลิตโดยบริษัทไดอิจิ ซังเกียว และบริษัทเคเอ็ม ไบโอโลจิกส์ ขณะที่อีก 90 ล้านโดส ผลิตโดยบริษัทเจซีอาร์ ฟาร์มาซูติคอล

PR-โปรแกรมผลบอล-2_B PR-โปรแกรมผลบอล-2_B
TOP สุขภาพ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ