ด่วน! อายุ 60 ปี เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนโควิด เส้นเลือดในช่องท้องโป่งพอง สธ.ไม่ฟันธง!
เกาหลีใต้เร่งสอบ ดับ 2 หลังฉีดวัคซีนโควิด-19
วันที่ 26 มี.ค.2564 นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ ยืนยันว่าสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เกิดจากโรคประจำตัว ไม่ใช่ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน
ผลการสอบสวนโรคเบื้องต้นพบว่าผู้เสียชีวิต เป็นผู้ป่วยชาย อายุ 41 ปี พื้นเพเป็นคนจังหวัดสมุทรปราการ มีโรคประจำตัวคือโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง เข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เมื่อปลายเดือนม.ค. และพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลประมาณ 40 วัน ก่อนกลับมาพักฟื้นที่บ้านประมาณ 1 สัปดาห์ อาการโดยรวมคงที่ และปกติดี
แพทย์ผู้ทำการรักษา ฉีดวัคซีนโควิดให้เมื่อวันที่ 3 มี.ค. และมีการติดตามอาการผ่านแอปพลิเคชัน หมอพร้อม พบว่า หลังฉีดวัคซีนไปในวันที่ 1 และ 3 อาการปกติดี
แต่เมื่อครบ 7 วัน ในวันที่ 9 มี.ค. เจ้าหน้าที่ติดต่อผู้ป่วยไม่ได้ ต่อมาทราบว่าผู้ป่วยเข้าแอดมิด ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ในวันที่ 11 มี.ค. ด้วยอาการ แน่นหน้าอก วิงเวียนศีรษะ เป็นลม ต่อมาผู้ป่วยอาการทรุดลง และเสียชีวิตในวันที่ 13 มี.ค.
โดยแพทย์สรุปสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจากหลอดเลือดแดงแตก จึงมั่นใจว่าสาเหตุการเสียชีวิตไม่ได้มาจากวัคซีน แต่เป็นเหตุร่วม หรือเหตุบังเอิญ ที่เกิดขึ้นหลังฉีดวัคซีน เนื่องจากโรคนี้มีโอกาสที่เส้นเลือดจะแตกได้ตลอดเวลา
ขณะที่ความน่ากลัวของ โรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง นพ.ทวี เปรียบเทียบว่าเหมือนระเบิดเวลา เนื่องจากเป็นโรคที่ไม่ค่อยแสดงอาการ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักตรวจพบโดยบังเอิญ ซึ่งกลุ่มเสี่ยงของโรคนี้ คือ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคความดัน โรคหัวใจ รวมทั้งไขมันในเลือดสูง และสูบบุหรี่ ซึ่งสัญญาณที่บ่งชี้ว่าหลอดเลือดปริแตก หรือรั่ว คือ มีอาการแน่น หรือ อาการปวดแบบรุนแรงฉับพลัน เช่น แน่นหน้าอก ปวดหลัง ปวดท้องแบบฉับพลัน
นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนล็อตเดียวกับผู้เสียชีวิต มีทั้งสิ้น 40 คน ในจำนวนนี้มีอาการไม่พึงประสงค์เล็กน้อย เช่น บวม แดง 5 คน