สถานการณ์ที่นั่นเรียกได้ว่ากำลังตามรอยอินเดีย เพราะยอดผู้ติดเชื้อกำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว การแสดงยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของอินเดียและเนปาล ปัจจุบันเนปาลพบผู้ติดเชื้อราว 20 รายต่อประชากร 1 แสนคน ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่อินเดียพบเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว
หากดูจากกราฟจะเห็นว่า เนปาลมีแนวโน้มที่จะตามรอยอินเดีย ต้นเดือนเมษายน เนปาลพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 100-300 รายต่อวัน ผ่านมากลางเดือนขึ้นไป 8,700 รายต่อวัน
ญี่ปุ่นหวั่นโควิดกลายพันธุ์ สาเหตุการระบาดระลอก 4
ยอดติดเชื้อโควิดที่แท้จริงใน อินเดีย อาจสูงถึง 500 ล้านคน
ส่วนยอดผู้เสียชีวิตก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา เนปาลพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ไม่เกิน 5 รายต่อวัน เมื่อวานนี้เพิ่มเป็น 88 ราย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 394,000 ราย เสียชีวิตแล้วกว่า 3,700 ราย ตอนนี้โรงพยาบาลเตียงไม่พอ ขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์และออกซิเจน สถานที่เผาศพไม่เพียงพอ ต้องก่อกองไฟที่ริมแม่นำเพื่อเผาศพจำนวนมากพร้อมๆ กัน
นายแพทย์ซามีร์ อาธิการี โฆษประจำกระทรวงสาธารณสุขของประชากรของเนปาลเตือนว่า สถานการณ์การระบาดกำลังจะเกินกำลังควบคุม กำลังจะเข้าสู่ขั้นที่เรียกว่า หายนะ
สาเหตุการระบาดหนักในรอบนี้ของเนปาลคือ การอนุญาตให้รวมตัวกันจัดกิจกรรม ที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกันกับที่เชื้อกลายพันธุ์จากอินเดียแพร่เข้ามา เนปาลและอินเดียมีพรมแดนติดกัน มีข้อตกลงว่าประชาชนของทั้งสองประเทศสามารถเดินทางไปกลับได้อย่างเสรี โดยไม่ต้องใช้หนังสือเดินทาง
มีรายงานระบุว่า เมื่อช่วงแรกของการระบาดระลอกสองในอินเดีย มีชาวอินเดียจำนวนหนึ่งหนีไวรัสเข้ามาในเนปาล หลายฝ่ายเชื่อว่าไวรัสโควิดกลายพันธุ์หลายชนิดที่กำลังแพร่ระบาดในอินเดียได้แพร่กระจายไปเนปาลแล้ว แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นสายพันธุ์ไหน เพื่อนบ้านของอินเดียอีกประเทศที่กำลังเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ก็คือ มัลดีฟส์
ต้นปี 2020 ที่โควิดเริ่มระบาดในมัลดีฟส์ ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุดไม่เกิน 300 รายต่อวัน แต่เมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ยอดผู้ติดเชื้อทะยานขึ้น เมื่อวานนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,091 ราย
ยอดผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 35,000 ราย เสียชีวิตแล้ว 84 ราย
มัลดีฟส์คือประเทศแรกๆของโลกที่เปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติหลังจากมั่นใจว่า ควบคุมได้ เพราะติดเชื้อไม่สูงและฉีดวัคซีนได้กว้างขวาง ที่นี่มีประชากรราว 530,000 คน มีคนที่ได้รับวัคซีน 2 โดสแล้วคิดเป็นร้อยละ 21 ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในเอเชียก็เลยมั่นใจที่จะเปิดประเทศ
กลุ่มนักท่องเที่ยวหลักของมัลดีฟส์ก็คือนักท่องเที่ยวจากอินเดีย ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีชาวอินเดียเดินทางไปมัลดีฟส์เกือบ 70,000 คน ทำให้คาดการณ์ว่ายอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอาจมีผลมาจากเชื้อกลายพันธุ์อินเดีย
สำหรับประเทศที่ไม่ได้มีพรมแดนติดกับอินเดียก็หนีไม่พ้น ล่าสุดสิงคโปร์พบผู้ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์จากอินเดียเพิ่มอีก 4 ราย เมื่อช่วงเช้าของวันจันทร์นี้ ตามเวลาสิงคโปร์ กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์รายงานการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเพิ่มอีก 10 ราย โดย 4 ใน 10 ราย มีผลการตรวจหาเชื้อเบื้องต้นที่ชี้ว่าติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์สองตำแหน่งจากอินเดีย หรือ B.1.617
ทั้ง 4 รายได้แก่
1 พนักงานขับรถ Grab เพศชาย วัย 38 ปี
2 เจ้าหน้าที่ประเมินความเสี่ยง ของบริษัท Lendlease เพศหญิง วัย 40 ปี
3 พนักงานทำความสะอาดประจำท่าอากาศยานชางงี เพศหญิง วัย 51 ปี
4 เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำท่าอากาศยานชางงี เพศชาย วัย 57 ปี
โดยทั้ง 4 รายไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ
สิงคโปร์พบผู้ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์สองตำแหน่งจากอินเดียรายแรกเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่มาผ่าน ซึ่งผู้ติดเชื้อรายแรกคือผู้ที่อาศัยอยู่ในสิงคโปร์และไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ ทำให้สิงคโปร์ต้องยกระดับมาตรการต่างๆ เพื่อยับยั้งการระบาดของไวรัส โดยตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา สิงคโปร์ได้เพิ่มวันกักตัวสำหรับผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศเป็น 21 วัน จากเดิมที่กำหนดไว้ 14 วัน
ส่วนในประเทศ สิงคโปร์ได้จำกัดจำนวนการรวมตัวของประชาชนเหลือ 5 คนจากเดิมที่กำหนดไว้ 8 คน และกำหนดให้มีการตรวจหาเชื้อไวรัสในประชาชนก่อนจัดงานรวมตัว และสั่งปิดยิมทั่วประเทศ เบื้องต้นจะมีผลบังคับใช้ไปถึงวันที่ 30 พฤษภาคมนี้
นอกจากอินเดีย ประเทศที่เจอกับการระบาดของไวรัสกลายพันธุ์จากอินเดียมากที่สุดก็คือ สหราชอาณาจักร โดยตอนนี้สหราชอาณาจักรพบโควิดกลายพันธุ์จากอินเดียถึง 4 สายพันธุ์
โควิดมีสายพันธุ์อะไรบ้าง
1. B.1.617 ไวรัสกลายพันธุ์สองตำแหน่งจากอินเดีย ที่ทั่วโลกแสดงความกังวลมากที่สุด เพราะมันแพร่ระบาดไปอย่างน้อย 17 ประเทศทั่วโลกแล้ว โดยสหราชอาณาจักรพบผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้แล้ว 261 ราย
2. B.1.617.1 จากอินเดีย โดยขณะนี้สหราชอาณาจักรยังไม่มีรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้
3. B.1.617.2 จากอินเดีย โดยสหราชอาณาจักรพบผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้แล้ว 520 ราย
4. B.1.617.3 จากอินเดีย โดยสหราชอาณาจักรพบผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้แล้ว 9 ราย
จะเห็นว่าไวรัสกลายพันธุ์จากอินเดียที่ระบาดหนักๆ ในสหราชอาณาจักรไม่ใช่ B.1.617 แต่เป็นไวรัสสายพันธุ์ย่อย อย่าง B.1.617.2
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หน่วยงานสาธารณสุขของอังกฤษได้ประกาศยกระดับให้ไวรัสกลายพันธุ์ B.1.617.2 เป็นไวรัสกลายพันธุ์ที่น่ากังวล (Variant of Concern) หลังจากมีหลักฐานที่ชี้ว่า ไวรัสสายพันธุ์นี้สามารถแพร่ระบาดได้เร็วกว่าโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิม และอาจแพร่ระบาดได้เร็วเท่าๆ กับไวรัสกลายพันธุ์ B.1.1.7 ที่พบที่เมืองเคนท์ ในประเทศอังกฤษเป็นที่แรก และตอนนี้แพร่ระบาดไปมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลกแล้ว
ส่วนไวรัสกลายพันธุ์ B.1.617 B.1.617.1 และ B.1.617.3 ยังคงเป็นไวรัสภายใต้การสอบสวน (Variant Under Investigation) ที่มีความรุนแรงน้อยกว่า
การแพร่ระบาดของไวรัสกลายพันนธุ์จากอินเดียเกิดขึ้นในช่วงที่สหราชอาณาจักรกำลังผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ที่เอื้อให้ประชาชนออกมาใช้ชีวิตตามปกติ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษได้ประกาศแล้วว่าจะรับมือกับไวรัสกลายพันธุ์อย่างระมัดระวัง โดยสรุปนับตั้งแต่ค้นพบครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2020 จนถึงขณะนี้ไวรัสกลายพันธุ์ B.1.617 ได้แตกสายพันธุ์ออกเป็นอย่างน้อย 4 ตัว คือมีตั้งแต่ B.1.617 ธรรมดา ไปจนถึง B.1.617 จุดหนึ่ง, จุดสอง และจุดสาม
ต้องติดตามกันต่อว่า แต่ละสายพันธุ์มีศักยภาพตลอดจนความรุนแรงในการระบาดอย่างไร
