ชายที่ติดเชื้อโควิด-19 รายนี้คือพนักงานก่อสร้างและเดินระบบภายในอาคาร ไซต์งานบริษัทอิตาเลียนไทย ภายในซอยแจ้งวัฒนะ 5 เขาเล่าให้ทีมข่าวพีพีทีวีฟังว่า ลักษณะไซต์ก่อสร้างหลักสี่ เป็นโครงการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ 3 อาคาร โดยมีแนวกั้นระหว่างพื้นที่ก่อสร้างและพื้นที่โดยรอบ ประกอบไปด้วย มีคนงานก่อสร้างประมาณ 1,700 คน แบ่งเป็นคนไทย 800 คน แรงงานต่างด้าว 900 คน
คนงานหลักสี่ แฉ ไม่ปิดไซต์งาน ต้นเหตุโควิดระบาด
ชาวบ้านปิดร้านหนี โควิด-19 แคมป์คนงานหลักสี่
การทำงานจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คืองานก่อสร้าง และงานเดินระบบภายใน เนื่องจากเป็นระบบปิด ทำให้คนงานต้องใช้พื้นที่ร่วมกันตลอดเวลา หลังเลิกงานคนงานส่วนหนึ่งจะกลับบ้านโดยรถรับส่งพนักงาน บางส่วนกลับบ้านโดยรถจักรยานยนต์ส่วนตัว เลยทำให้คาดว่าเป็นจุดเสี่ยงที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดพื้นที่ เพราะหลังจากที่พบผู้ติดเชื้อแล้วยังมีการเปิดไซต์งานตามปกติ
สำหรับที่มาการระบาด คนงานรายนี้เปิดเผยว่า เริ่มต้นเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อโควิดจากบริษัทอิตาเลียนไทย จำนวน 2 คน หลังจากนั้น วันที่ 7 พฤษภาคม ตัวเองเริ่มมีไข้ และอาการไอ จึงได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชน แพทย์แจ้งว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ ให้ยากลับมากิน แต่อาการไม่ดีขึ้น กระทั่งวันที่ 15 พฤษภาคม จึงไปตรวจโควิดที่แล็บเอกชนที่บริษัทกำหนด และผลยืนยันพบเชื้อวันที่ 17 พฤษภาคม
ตรวจเชิงรุก"แคมป์คนงานหลักสี่"มั่นใจคุมได้
ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจจุดตรวจคัดกรองที่ไซต์งานบริษัทอิตาเลียนไทย ในซอยแจ้งวัฒนะ 5 พบว่าบรรยากาศการตรวจหาเชื้อโควิด-19 วันนี้จัดขึ้นภายในไซต์ก่อสร้างอย่างมิดชิด มีคนงานเข้าออกไซต์เพื่อตรวจหาเชื้อตลอดเวลา โดยบุคคลที่เข้าไปได้ต้องเป็นเจ้าหน้าที่และคนงานเท่านั้น ส่วนแคมป์ที่พักคนงาน มีเจ้าหน้าที่เทศกิจ ตำรวจ และทหาร ยังคงตรวจบริเวณหน้าที่พักคนงาน ห้ามไม่ให้บุคคลเข้า-ออกสถานที่ดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต
ด้าน ส.ส.ในเขตพื้นที่อย่างนายสิระ เจนจาคะ เป็นห่วงเรื่องผลสอบสวนโรคของคนงานติดเชื้อภายในแคมป์ที่ยังไม่ชัดเจน โดยตั้งข้อสงสัยว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลหรือขัดกฎหมายหรือไม่ โดยตัวเองตั้งสมมติฐานว่าอาจมีแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย เพราะมีรายงานมาที่ตนว่าในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา นอกจากจะมีรถพยาบาลรับผู้ติดเชื้อในแคมป์ไปรักษาแล้ว ยังระบุข้อมูลว่ามีรถสองแถวนำคนงานออกไปข้างนอกแคมป์ ทั้งที่มีประกาศปิดแคมป์ห้ามคนงานเข้าออก เชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะนำแรงงานนั่งรถสองแถวไปตรวจหาเชื้อจึงเรียกร้องให้บริษัท อิตาเลียนไทยฯ เรียกคนงานให้มากักตัว ตรวจค้นหาเชื้อโควิด-19 สอบสวนไทม์ไลน์ทั้งหมด พร้อมเปิดเผยข้อมูล ทั้งคนไทยและคนงานต่างด้าว
นอกจากนี้ยังพบว่าคนงานของบริษัทอิตาเลียนไทยจำนวน 2 คนที่รับการตรวจค้นหาเชื้อโควิด-19 แต่ได้เดินทางกลับไปพักที่บ้านตัวเองย่านลาดพร้าวและชุมชนใกล้แคมป์ย่านศูนย์ราชการ จึงเกรงว่าเชื้อจะกระจายเป็นวงกว้าง
ตรวจเชิงรุก คลัสเตอร์แคมป์แรงงานต่างด้าวหลักสี่ บ.ชื่อดัง หลังติดโควิดเกือบ 200 ราย
ส่วนบริษัท อิตาเลียนไทยฯ ชี้แจงว่า ขณะนี้บริษัทและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมมือใช้มาตรการขั้นสูงสุด โดยการควบคุมพื้นที่บ้านพักพนักงานดูแลผู้ติดเชื้อและเฝ้าระวังผู้ที่พักอาศัยในบ้านพักอย่างเต็มความสามารถ แต่ยังไม่มีคำชี้แจงเกี่ยวกับไซต์งานก่อสร้างแต่อย่างใด