หนังสือดังกล่าวทำขึ้นวันที่ 17 พ.ค. ถึง ผกก.สภ.สันป่าตอง มีเนื้อหาสำคัญระบุว่า ด.ต. (ขอสงวนชื่อนามสกุล) มีความประสงค์ ไม่ขอรับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส โควิด -19 เนื่องจากเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2564 เวลาประมาณ 11.00 น. ภรรยาของข้าพเจ้า หลังจากได้รับการฉีดวัคซีนโควิด 19 เข็มที่ 2 มีอาการชาครึ่งซีกต้อง นำตัวส่งโรงพยาลบาลนครพิงค์ ได้รับการวินิจฉัยอยู่ในสภาพที่ไม่ปลอดภัย
บุคลากรทางการแพทย์ โอด เลือกวัคซีนฉีดไม่ได้
เผยผลฉีดวัคซีน สร้างภูมิคุ้มกันได้สูงถึง 99%
ข้าพเจ้าต้องเฝ้าอยู่ ติดตามอาการของภรรยาทางแพทย์แจ้งว่า มีอาการอัมพาตครึ่งซีกซึ่งมีผลข้างเคียงจากการฉีด วัคซีนชิโนแวคเข็มที่ 2 ทั้งนี้เกิดจากประสบการณ์ตรงของข้าพเจ้าที่เกิดจากภรรยา หลังจากนั้น อาการยังไม่ดีขึ้นประมาณ 2-3 วัน ยังมีอาการชาครึ่งซีก อยู่ระหว่างการรักษาดูอาการที่
โรงพยาบาลสันป่าตอง ข้าพเจ้าจึงขออนุญาตไม่สมัครใจรับวัดซึนเข็มที่ 2 ดังเหตุผลที่ได้อธิบายมาดังข้างต้น
ล่าสุด พ.ต.อ.พงษ์ธรรศ เจริญปรีชญาพงษ์ ผกก.สภ.สันป่าตอง พร้อมด้วย พ.ต.ท.จักรียุทธ โชติวชิระพงศ์ รอง ผกก.ป.สภ.สันป่าตอง เดินทางเข้าเยี่ยมและให้กำลังใจ ภรรยาของด.ต. นายดังกล่าวที่โรงพยาบาลประสาทเชียงใหม่
เทียบชัดวัคซีนโควิด-19 2 ยี่ห้อ ซิโนแวค และ แอสตร้าเซเนก้า
จากการตรวจวินิจฉัยของ พญ.รัตนา จันทร์แจ่ม รพ.ประสาทเชียงใหม่ ระบุว่าผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีนโควิด-19 อาจเกิดขึ้นได้กับบางคน แต่เป็นเพียงผลที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และ ณ ปัจจุบันอาการชาเหมือนอัมพาตครึ่งซีกที่เคยเกิดขึ้นในช่วงแรกนั้นได้หายจนเป็นปกติแล้ว มีเพียงอาการตึงที่น่องขาข้างซ้ายเท่านั้น พร้อมยืนยันว่าอาการจะดีขึ้นจนหายเป็นปกติ และไม่มีนัดหมายตรวจเพิ่มเติม
ขณะที่ ด.ต.นายดังกล่าวก็เกิดความสบายใจมากขึ้นและพร้อมประสงค์ที่จะรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 2 ตามกำหนด เพื่อความปลอดภัยของครอบครัวตนเองและเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ให้เต็มประสิทธิภาพต่อไป
ผู้เชี่ยวชาญย้ำ วัคซีนโควิด-19 ทุกยี่ห้อไม่ด้อยไปกว่ากัน