นี่คือเอกสารดังกล่าว พบว่า เอกสารถูกพิมพ์ขึ้นในวันนี้ (27 พ.ค.) ทีมข่าวตรวจสอบไปที่เบอร์โทรศัพท์ในเอกสาร คนรับระบุว่า ชื่อ นายกรกฤษณ์ กิติสิน เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทแอคแคป แอสเซ็ทส์ พร้อมยืนยันว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารจริง อ้างว่า อยากเสนอให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ไปติดต่อซื้อวัคซีนซิโนฟาร์ม 20 ล้านโดส จาก บริษัทในสิงคโปร์ เมื่อถามว่า ตามกระบวนการบริษัทที่อยากเสนอขายจะต้องไปขึ้นทะเบียนกับ อย. ทำไม ไม่ดำเนินการตามขั้นตอน
เข็มที่ 1 ซิโนแวค-เข็มที่ 2 ซิโนฟาร์ม ทำได้หรือไม่?
"หมอนิธิ" เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ชี้แจง 5 ประเด็น "วัคซีนตัวเลือก" นำเข้าเอง
นายกรกฤษณ์ ระบุว่า บริษัทของเขาไม่ใช่บริษัทนำเข้ายา ไม่มีคุณสมบัติในการยื่นเอกสาร แต่รู้จักกับ หุ้นส่วน ที่สิงคโปร์ ที่ มีอีกบริษัท อยู่ที่ฮ่องกง จึงมองว่าเป็นช่องทางที่สามารถทำให้ไทยได้วัคซีนเพิ่มเติม 20 ล้านโดส ในเวลา 2 สัปดาห์ จึงอยากเสนอให้ ที่ผ่านมาเคยส่งหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แต่ไม่ได้รับการตอบกลับ เมื่อเห็นว่า ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์สามารถนำเข้าได้ จึงอยากแจ้งเป็นทางเลือกให้
ทีมข่าว ได้โทรศัพท์สอบถามกับ นายไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการ อย. ระบุว่า บริษัทที่มายื่นเอกสารขอขึ้นทะเบียนวัคซีน “ซิโนฟาร์ม” กับ อย. นั้น ขณะนี้มีเพียงบริษัทเดียว คือ บริษัท ไบโอจีนีเทค จำกัด ไม่ใช่บริษัทแอคแคป แอสเซ็ทส์ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของจดหมายฉบับนี้
ซึ่งในวันพรุ่งนี้ จะมีการประชุมเพื่อพิจารณา การขึ้นทะเบียนวัคซีน “ซิโนฟาร์ม” ของบริษัท ไบโอจีนีเทค จำกัด เมื่อ อย.ประกาศขึ้นทะเบียนเรียบร้อย บริษัทเดียวที่จะนำเข้าวัคซีนของซิโนฟาร์มได้ คือ บริษัท ไบโอจีนีเทค จำกัด เท่านั้น
บริษัทแอคแคป แอสเซ็ทส์ จำกัด ไม่สามารถนำทะเบียนของ บริษัท ไบโอจีนีเทค จำกัด มาใช้ในการนำเข้าวัคซีนได้ แต่สามารถมายื่นเอกสารขอขึ้นทะเบียนกับ อย.เองได้เช่นกัน ก่อนจะนำเข้าวัคซีนได้ เนื่องจากบริษัทที่นำเข้า มีข้อกำหนดสำคัญในการที่จะต้องรับผิดชอบการแพ้วัคซีนที่อาจเกิดขึ้นได้ บริษัทที่นำเข้า จึงต้องเป็นบริษัทที่ขอขึ้นทะเบียนเท่านั้น
