กรณีครอบครัวหนึ่งพักอาศัยอยู่ด้วยกัน 6 ชีวิต อาศัยอยู่ภายในแฟลตดินแดง กรุงเทพฯ ซึ่งช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ลูกชายคนที่ 3 ติดเชื้อโควิด19 ทำให้แม่และตาวัย 95 ปีเป็นผู้ป่วยติดเตียง ติดเชื้อไปด้วย กระทั่งเมื่อวานนี้คุณตาติดเชื้อเสียชีวิตส่งผลให้หลานทั้ง 3 คน ที่ต้องกักตัวอยู่ในห้องกันเพียงลำพัง วันนี้เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เข้าให้การช่วยเหลือ
หญิงวัย 84 ป่วยติดเตียงติดโควิด-19 จากหลาน
ชื่นชมสองพี่น้องติดโควิด-19 ดูแลกันและกัน
เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พร้อมด้วยทีมอาสากลุ่มเส้นด้าย ลงพื้นที่แฟลตดินแดง เพื่อเข้าให้การช่วยเหลือครอบครัวผู้ติดเชื้อโควิด19 ที่เหลือเพียงเด็ก 3 คน ซึ่งเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต้องกักตัวอยู่ในห้องเพียงลำพัง โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปสอบถามความเป็นอยู่และความต้องการของเด็กทั้ง 3 คนพร้อมประเมินสภาพจิตใจเบื้องต้น เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหา
เรื่องราวครอบครัวนี้ถูกเปิดเผยโดยนายกัณตภณ ดวงอัมพร ทีมจิตอาสากลุ่มเส้นด้าย ได้เข้าไปช่วยเหลือ เล่าว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ค. เจ้าหน้าที่เข้าตรวจเชิงรุกคัดกรองเชื้อโควิด19 ภายในแฟลตดินแดง ซึ่งผลการตรวจพบว่าลูกชาย คนที่ 3 อายุ 9 ปี ของครอบครัวนี้ติดเชื้อโควิด19
ต่อมา วันที่ 22 พ.ค. แม่เด็ก อายุ 40 ปี มีอาการป่วย ไอเจ็บคอ จึงพยายามประสาน 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือแต่ยังไม่สามารถให้การช่วยเหลือได้ทันที จึงติดต่อทีมอาสากลุ่มเส้นด้ายให้ช่วย และพาไปตรวหาเชื้อ จนพบว่าแม่ติดเชื้อโควิด19 เช่นกัน และถูกนำตัวไปรักษา
วันที่ 26 พ.ค.64 เจ้าหน้าที่เข้ามาSwab ตรวจหาเชื้อตา วัย 95 ปี ส่วนเด็ก 3 คนไม่ได้ตรวจ ทีมอาสาจึงพาไปตรวจเชื้อภายหลัง
และเมื่อวานวันที่ 27 พ.ค.ผลออกมาพบว่าคุณตาติดเชื้อโควิด19 แต่เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ หลังพบว่าคุณตาได้เสียชีวิตลงแล้วก่อนทราบผลโควิด โดยหลานชายบอกว่าช่วงเช้ามืด คุณตาได้ตกเตียง จึงอุ้มกลับขึ้นไปนอน จนกระทั่งช่วงสายพบว่าคุณตาได้เสียชีวิตลงแล้ว กลายเป็นภาพเศร้าใจเมื่อหลานๆนำผ้ามาปิดร่างคุณตาไว้ระหว่างรอเจ้าหน้าที่มาดำเนินการ
ล่าสุดวันนี้ผลตรวจเชื้อโควิด พบว่าเด็กอายุ 7 ปี ในบ้านติดเชื้อเพิ่มอีก 1 คน ส่วนอีก 2 คน คือเด็กชายอายุ 14 ปี และ เด็กหญิง อายุ 10 ปี ผลตรวจรอบแรกไม่ติดเชื้อ
นอกจากนี้ยังมีเพื่อนของเด็กทั้ง 3 คน ที่มานั่งเล่นเฝ้าหน้าห้องตลอดหลายวันที่ผ่านมา มีความเสี่ยงสูงจึงจำเป็นต้องพาไปตรวจหาเชื้อและให้กักตัวเช่นเดียวกัน
ด้านทางทีมอาสากลุ่มเส้นด้ายยังสะท้อนปัญหาเคสนี้ไปยังกระทรวงพัฒนาสังคมฯ (พม.) ในการแก้ปัญหาผู้ติดเชื้อโควิด19 ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ให้ได้รับการเข้าช่วยเหลืออย่างเร็วที่สุด นายภูวกร ศรีเนียน ผู้ประสานงานกลุ่มเส้นด้าย บอกว่า ภาครัฐควรจะมีความยืดหยุ่นในกระบวนการต่างๆของระบบราชการในสถานการณ์เร่งด่วน เพราะจากการลงพื้นที่หลายกรณีที่ทีมอาสาไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้เพราะติดขั้นตอนของหน่วยงานภาครัฐ ทำให้ผู้ติดเชื้อไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีและเชื้ออาจเกิดการแพร่กระจายได้
ทีมอาสากลุ่มเส้นด้าย ยังเสนอข้อเรียกร้องอีก 4 ข้อ เพื่อเดินหน้าแก้ปัญหาผู้ติดเชื้อโควิด19 ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรือ อยู่ในชุมชนแออัด คือ ให้หน่วยงานรัฐจัดตั้งวอล์รูมเพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานงานเข้าใช่วยเหลือผู้ติดเชื้อโควิด19 ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ บูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างโรงพยาบาลรัฐ-เอกชน เพื่อให้สามารถจัดหาเตียงได้ทันทีเมื่อมีผู้ติดเชื้อ จัดตั้งอาสาสมัครผู้เชี่ยวชาญในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย และ โรงพยาบาลควรแจ้งผลแล็ปโดยเร็ว เพื่อให้ผู้ป่วยนำไปยืนและเข้ารับการรักษาให้เร็วที่สุด
ส่วนการเข้าช่วยเหลือเบื้องต้น นายอนุกูล ปีดแก้ว รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจเด็กในครอบครัวดังกล่าว พร้อมทั้งให้นักสังคมสงเคราะห์แนะนำเด็กในการใช้ชีวิตในช่วงที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง และการอยู่ระหว่างรอเข้ารับการรักษานั้นต้องปฏิบัติตนอย่างไร เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อตนเองและแนวทางการป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปสู่คนอื่นในชุมชน โดยหลังจากนี้จะมีเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานครเข้ามาเยี่ยมเด็กเพื่อติดตามสภาพความเป็นอยู่อย่างต่อเนื่อง และให้ความช่วยเหลือทั้งด้านอาหารและสิ่งของที่จำเป็นในการดำรงชีวิต
