สปสช.เพิ่มสิทธิตรวจ-รักษาภาวะเกล็ดเลือดต่ำที่มีอาการหลอดเลือดอุดตัน หลังได้รับวัคซีนโควิด-19


โดย PPTV Online

เผยแพร่




บอร์ด สปสช.เพิ่มสิทธิประโยชน์ใหม่ การตรวจและรักษาภาวะเกล็ดเลือดต่ำที่มีอาการหลอดเลือดอุดตัน (“ภาวะ VITT” ) หลังได้รับวัคซีนโควิด-19

ที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2564 ซึ่งมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานบอร์ด สปสช. เป็นประธาน มีมติเห็นชอบ

ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน เป็นผลข้างเคียงจากวัคซีนโควิด-19?

สปสช.ย้ำเยียวยาแพ้วัคซีนโควิด แนะข้อปฎิบัติก่อนฉีดวัคซีน

เพิ่มสิทธิประโยชน์การตรวจทางห้องปฏิบัติการ (Lab) เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุการตรวจและรักษา ภาวะเกล็ดเลือดต่ำที่มีอาการหลอดเลือดอุดตัน ภายหลังได้รับวัคซีนโควิด-19 หรือ “ภาวะ VITT”

“ภาวะ VITT” คืออะไร มีอาการอย่างไร

ภาวะ VITT หรือ Vaccine-induced Immune Thrombotic Thrombocytopenia จะ แสดงอาการหลังจากได้รับวัคซีนประมาณ 4-30 วัน โดยอุบัติการณ์ของภาวะดังกล่าวอยู่ที่ 1 ต่อ 125,000 – 1 ต่อ 1,000,000 ของผู้ได้รับวัคซีน

หากผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ไปแล้ว 4-30 วัน มีอาการ

1.ปวดศีรษะรุนแรง

2.แขนขาชาอ่อนแรง

3.หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด

4.ชัก ตามัว เห็นภาพซ้อน

5.เหนื่อยง่าย หายใจลำบากหรือติดขัด เจ็บแน่นหน้าอก

6.ปวดท้องหรือปวดหลังรุนแรง

7.ขาบวมแดง หรือ ซีด เย็น

เปรียบเทียบข้อดี ข้อด้อย "วัคซีนโควิด 19" ที่มีใช้อยู่ในปัจจุบัน

แนะนำให้เข้ารับการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง โดย สปสช. จะสนับสนุนค่าตรวจรวมทั้งค่ารักษาให้

สปสช.เพิ่มสิทธิประโยชน์คลอบคลุม 4 ด้าน

ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า สิทธิประโยชน์ใหม่นี้ จะครอบคลุมการเบิกจ่าย 4 รายการ ได้แก่

1. การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดแดง CBC

2. การตรวจวินิจฉัย Heparin-PF4 antibody (lgG) ELISA assay

3. การตรวจวินิจฉัย Heparin induced Platelet activation test (HIPA)

และ 4. ยา Human normal immunoglobulin, intravenous (IVIG) ซึ่งให้เบิกจ่ายตามระบบ VMI

โดย สปสช. คาดว่าจะใช้งบประมาณราว 9.28 ล้านบาท

สำหรับยา IVIG สำหรับรักษาภาวะ VITT นั้น ไม่อยู่ในข้อบ่งใช้ในบัญชียาหลักแห่งชาติ จึงต้องเบิกจ่ายผ่านโปรแกรมยา จ2 ภายใต้เงื่อนไขการดำเนินการโครงการศึกษาและพัฒนาบริการ โดย สปสช. กระทรวงสาธารณสุข สมาคมโลหิตวิทยา และคณะทำงาน AEFI ที่จะดำเนินการร่วมกันใน 3 ประเด็น ได้แก่ 1. พัฒนาหน่วยตรวจให้ครอบคลุมทุกเขตสุขภาพของประเทศ 2. ติดตามข้อมูลอุบัติการณ์การเกิด VITT 3. ประเมินประสิทธิผลของยา IVIG และหลังจากที่ได้ดำเนินการครบระยะเวลา 1-2 ปี ให้มีการทบทวนสิทธิประโยชน์ในกรณีนี้อีกครั้ง

TOP สุขภาพ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ