โดยมีใจความสำคัญ ดังนี้ สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ได้แพร่อย่างรวดเร็วในทุกพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและการดำรงชีวิตประชาชน และต่อระบบการให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุข จึงได้มีการอาศัยอำนาจของพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2558 มาใช้ในการแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวด้วย คือ
กทม.- หลายจว.เอาจริง จับไม่สวมหน้ากากอนามัย ในรถโดนหรือไม่ ปรับจริงเท่าไหร่ ชี้ตำรวจไม่มีสิทธิปรับ!!
มาแล้ว ตัวอย่าง “จับจริงปรับจริง” ไม่ใส่หน้ากากอนามัยนอกเคหสถาน
กำหนด ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ ป้องกันไม่ให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ จำกัดวงในการระบาดของโรคโควิด-19
ดังนั้น ในกรณีที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อได้ออกคำสั่งห้ามผู้ใดกระทำการซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะโดยการ ไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ โรคโควิด 19 แพร่ออกไป
หาก ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่าย เป็นความผิดตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 พร้อมเห็นสมควร กำหนดหลักเกณฑ์การเปรียบเทียบความผิดกรณีฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ โดยมีอัตราเปรียบเทียบปรับ ดังนี้
ระวางโทษ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท
อัตราค่าปรับที่กำหนดให้เปรียบเทียบ (บาท)
ครั้งที่ 1 ไม่เกิน 1,000 บาท
ครั้งที่ 2 มากกว่า 1,000 บาท แต่ไม่เกิน 10,000 บาท
ครั้งที่ 3 เป็นต้นไป มากกว่า 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 20,000 บาท
อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 สงบลงหรือกรณีมีเหตุอันสมควรหรือได้มีการยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 แล้ว เห็นควรให้ยกเลิกระเบียบนี้ไปในคราวเดียวกันด้วย