ภาพเหตุการณ์ที่หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน กำลังเตรียมบล็อกแขน บล็อกคอ นางศุภลักษณ์ แก้วประทีป อายุ 48 ปี ที่อยู่ในภาวะขยับตัวและพูดไม่ได้ หลังจากเธอตกบันไดบ้านเกือบ 10 ขั้น เนื่องจากเกิดอาการขาซ้ายอ่อนแรงกะทันหัน โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา
นางศุภลักษณ์ เปิดเผยกับทีมข่าวระหว่างรักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ เธอบอกว่า สงสัยว่าอาการขาอ่อนแรงกะทันหัน เป็นผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนซิโนแวคก่อนหน้านี้
บุคลากรทางการแพทย์ โอด เลือกวัคซีนฉีดไม่ได้
พบอสม. ฉีดวัคซีน“ซิโนแวค” แขนขาอ่อนแรง เหนื่อยหอบ
เธอเล่าไทม์ไลน์การฉีดวัคซีนให้ฟังว่า ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 วันที่ 6 มิถุนายน หลังนั่งสังเกตอาการ 30 นาที ไม่พบความผิดปกติ ก็กลับบ้าน จากนั้นตอนเย็นมีอาการปวดหัวและอ่อนเพลียเล็กน้อย 7 มิถุนายน ปวดหัวเล็กน้อย แต่ยังสามารถไปทำงาน จากนั้น 8 มิถุนายน เริ่มปวดหัวมากขึ้น และ 9 มิถุนายน ประมาณ 04.30 น. ตื่นขึ้นมาเพื่อเตรียมตัวไปทำงาน แต่รู้สึกปวดหัวมาก จากนั้นประมาณ 05.30 น. ขณะกำลังเดินลงจากชั้น 2 ของบ้าน ขาซ้ายเกิดอ่อนแรงกะทันหัน จนเป็นเหตุให้พลัดตกบันไดประมาณ 10 ขั้น จากนั้นถูกส่งตัวไป เพื่อทำ CT scan ก่อนถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.จุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ เพื่อทำ MRI 2 ครั้ง
นางศุภลักษณ์ เล่าว่า แพทย์แจ้งกับเธอว่าสาเหตุที่ทำให้เธอเดินไม่ได้ เป็นเพราะ พบการอุดตันที่เส้นเลือดฝอยบริเวณสมอง โดยจุดที่อุดตันมีขนาดเล็กมาก เท่าเส้นผม และพบว่ากระดูกต้นคอมีการเคลื่อนและมีรอยช้ำคาดว่ามาจากการกระแทกกับบันได เป็นเหตุให้กระดูกคอที่เคลื่อนไปกดทับเส้นประสาทและเกิดอาการขาอ่อนแรง
เธอตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะมีผลมาจากวัคซีนเป็นตัวกระตุ้นด้วย ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากปกติเธอเป็นคนแข็งแรง ทำกิจกรรมเอาท์ดอร์เสมอ แต่ไม่เคยมีปัญหาเรื่องสุขภาพ เบื้องต้นแพทย์เขียนใบรับรองแพทย์ว่ากระดูกเคลื่อนจากการตกบันได ทำให้เธอไม่สามารถทำเรื่องขอเยียวยาจาก สปสช. ว่าแพ้วัคซีนได้ จึงอยากให้มีหน่วยงานกลางเข้ามาตรวจหาสาเหตุเรื่องนี้ ว่าแท้จริงแล้วว่าอาการที่เกิดขึ้นมาจากผลข้างเคียงหรือไม่
นางศุภลักษณ์ บอกว่าตอนนี้เธอยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ยังต้องให้ยาแก้ปวดทุก 8 ชั่วโมง และต้องทำกายภาพบำบัด เพื่อให้แขนและขากลับมามีแรงเหมือนปกติ แพทย์ประเมินว่าน่าจะเริ่มกลับมาพอมีแรงได้ภายในสัปดาห์นี้ แต่หากจะให้กลับมามีแรงเหมือนปกติ น่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 4-5 เดือน
ขณะที่ทีมข่าวพีพีทีวีประสานขอข้อมูลกับ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ย้ำว่า แม้แพทย์จะไม่ได้ระบุว่า มีอาการแพ้วัคซีน แต่หากความผิดปกติเกิดขึ้นหลังฉีดวัคซีน สปสช. พร้อมจ่ายเงินเยียวยาให้ โดยต้องยื่นเรื่องเข้ามาให้คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพ หากประเมินและมีมติว่าเข้าข่ายเป็นผลกระทบที่เกิดจากการฉีดวัคซีนก็จะได้รับการเยียวยาตามกระบวนการ
สำหรับขั้นตอนในการยื่นขอรับเงินเยียวยาจาก สปสช. สามารถยื่นเรื่องได้ 3 ที่ คือโรงพยาบาลที่ฉีดวัคซีน, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือยื่นที่ สปสช.ในเขตพื้นที่ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะส่งเรื่องไปที่อนุกรรมการเพื่อพิจารณา ซึ่งไม่ได้พิจารณาสาเหตุมาจากวัคซีนเพียงอย่างเดียว แต่จะพิจารณาจากไทมไลน์และองค์ประกอบอื่น ๆ เพิ่มเติมอีก ซึ่งยืนยันได้ว่าคนไข้สามารถยื่นเอกสารขอรับเงินเยียวยาได้ โดยคณะกรรมการจะใช้เวลาพิจารณา 2-5 วัน