สภาพภายในห้องเช่าอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ในซอยสหการประมูล เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร ที่ครอบครัวของ นางโสพี คำน้อม อายุ 50 ปี ผู้พักอาศัย เธอเล่าว่าครอบครัวของเธอ มีสมาชิกด้วยกันทั้งหมด 6 คน โดยเช่าห้องพักอยู่จำนวน 2 ห้องซึ่งอยู่ติดกัน ซึ่งตอนนี้คนในครอบครัวติดเชื้อโควิด19 ไปแล้วถึง 5 คน รวมทั้งลูกน้อยวัย 3เดือน และเด็กวัย 3 ขวบด้วย
นางโสพี เล่าว่า ก่อนหน้านี้สามีและลูกชายมีอาการเจ็บคอและเป็นไข้ จึงไปตรวจที่โรงพยาบาลตำรวจ ผลออกวันที่ 23 มิถุนายน ปรากฎว่าพบเชื้อแพทย์จึงให้กลับไปรอเตียงที่บ้าน
5 ชีวิต ติดโควิดยกบ้าน คนแก่-เด็กเล็ก ถูกแจ้งเตียงเต็ม กินยาลดไข้รอ
ครอบครัวติดโควิด 4 คน ได้รับการช่วยเหลือแล้ว
แต่ว่าในวันต่อมาตนเองได้พาลูกสะใภ้ และหลานอีก 2 คนไปตรวจด้วย ซึ่งผลปรากฎว่าติดเชื้อทั้งหมด ส่วนผลของตนเองยังไม่ออก แต่ก็คาดว่าน่าจะติดเชื้อด้วยเช่นกัน
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอพยายามติดต่อกลับไปทางโรงพยาบาลตำรวจ และเบอร์สายด่วน 1669 แต่ก็ได้คำตอบเดียวว่า “ให้รอเตียง เตียงไม่พอ” ตอนนี้ลูกชายและหลานวัย 3เดือน อาการน่าเป็นห่วง เนื่องจากลูกชายมีไข้สูง 39 องศา มีอาการแน่นหน้าอก หายใจหอบเหนื่อย ไม่มีแรง และไม่ทานข้าวมา 2วันแล้ว
ส่วนหลานวัย 3 เดือน ตอนนี้ไม่ยอมกินนม มีไข้สูง หายใจติดขัด ที่สำคัญเลยคือทั้งครอบครัวตอนนี้ไม่มียากิน ทำได้แค่เช็ดตัว และกินยาพาราเซตามอล บรรเทาอาการไปชั่วคราวก่อน แต่อาการก็ยังหนักเหมือนเดิม ทำให้ตนเองรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐ ช่วยรีบมารับตัวผู้ป่วยที่อาการหนักไปรักษาอย่างเร่งด่วน
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้รับการร้องเรียนจากอีกหนึ่งพื้นที่หนึ่งที่น่าสนใจ คือบริเวณชุมชนสุโขทัย ซอย9 เขตดุสิต ซึ่งภายในชุมชนแห่งนี้ มีผู้ติดเชื้อโควิด19 ไปแล้วกว่า 70 คน จนถึงขั้นต้องปิดชุมชนและช่วยเหลือกันเอง แต่ว่าจนถึงขณะนี้ทางผู้นำชุมชนเอง ก็ยังช่วยเหลือประสานหาเตียงให้กับลูกบ้านไม่ได้
นางชุติกาญจน์ เมฆศรีวิไล ประธานชุมชนสุโขทัย ให้สัมภาษณ์ผ่านวีดีโอคอลกับทีมข่าว เปิดเผยว่า ในชุมชนดังกล่าวมีประชากรรวมทั้งหมด 160 หลังคาเรือน ติดเชื้อโควิด 70 คน อาการหนัก 2 คน เป็นผู้ป่วยชาย วัย 70 ปี (ผู้พิการ) มีไข้สูง หายใจเหนื่อยหอบ แน่นหน้าอก ส่วนอีกรายเป็นผู้ป่วยชายวัย 62ปี มีไข้สูง เริ่มช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หายใจติดขัด แน่นหน้าอก
ตอนนี้ชาวบ้านในชุมชนหลายสิบหลังคาเรือน ต้องกักตัวอยู่ในบ้านทั้งหมด เนื่องจากเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง ทำให้คนในชุมชนไม่กล้าออกไปทำงาน ส่วนผู้ป่วยอาการโคม่า 2 ราย โดยเฉพาะผู้พิการนั้นไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และพักอาศัยอยู่ภายในบ้านเพียงลำพัง ซึ่งประธานชุมชนต้องซื้ออาหารและยาไปส่งให้ทุกวัน ที่ผ่านมาพยายามประสานหน่วยงานต่างๆ เพื่อขอเตียงหรือขอยารักษาเป็นเวลากว่า 3สัปดาห์แล้ว แต่ก็ไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ จนรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง
นอกจากนี้ นางชุติกาญจน์ บอกอีกว่า ขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อในชุมชน อาจจะมีมากกว่า 70 คนด้วยซ้ำ เพราะยังอยู่ระหว่างรอผลตรวจอีกกว่า 100 คน ซึ่งหากผลตรวจออกมาพบว่า คนในชุมชนติดเชื้อไปมากกว่าครึ่งจากจำนวนประชากรทั้งหมด ทางชุมชนคงไม่สามาถรับมือได้แล้ว จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน