คนไข้ รพ.ราชพิพัฒน์ทะลักนอนลานจอดรถ 22 คน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




สถานการณ์เตียงสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ในพื้นที่กทม. ถึงแม้จะมีการขยายเพิ่มแต่ก็ต้องยอมรับว่า ยังไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสูงต่อเนื่องทุกวัน ทำให้เห็นภาพหลายโรงพยาบาลมีผู้ป่วยล้นออกมาจากห้องฉุกเฉิน เช่นที่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ ซึ่งเป็น ย่านบางแค ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสังกัดสำนักการแพทย์ กทม. โพสต์ภาพผ่านเพจเฟซบุ๊กโรงพยาบาลขณะนี้มีผู้ป่วยล้นห้องฉุกเฉิน

หลังเพจเฟซบุ๊กโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ เผยแพร่ภาพออกมา  ทีมข่าวพีพีทีวีลงพื้นที่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ บริเวณอาคารภูมิพิพัฒน์ ชั้น 1 ที่เป็นห้องฉุกเฉิน ใกล้กันเป็นลานจอดรถ พบมีผู้ป่วยโควิดนอนรอเตียงล้นออกมาจากห้องฉุกเฉินจริงตามภาพที่ปรากฎในโลกออนไลน์  จากการสังเกต จุดนี้เจ้าหน้าที่มีการจัดเตียงชั่วคราวให้น้ำเกลือ  มีถังออกซิเจนวางเรียงราย และมีพยาบาลเดินมาดูแลผู้ป่วยเป็นระยะ แทบไม่แตกต่างจากวอร์ดคนไข้ปกติ 

รพ.ราชพิพัฒน์ ระดมตรวจโควิดเชิงรุกไม่จำกัด

รพ.ราชพิพัฒน์ คนไข้ล้น ใช้ลานจอดรถ รองรับผู้ป่วยชั่วคราว  

 

ที่จะแตกต่างไปคือสถานที่ดังกล่าวเป็นลานจอดรถไม่ใช้หอผู้ป่วย สะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์เตียงผู้ป่วยโควิดของที่นี่เริ่มวิกฤต

แหล่งข่าวในโรงพยาบาลให้ข้อมูลว่า เตียงสำหรับผู้ป่วยสีแดง และสีเหลืองขณะนี้ตึงมาก แม้จะปรับหอผู้ป่วยแผนกอื่นที่ผู้ป่วยน้อย แล้วขยายเตียงสำหรับผู้ป่วยโควิดเพิ่มก็ยังไม่เพียงพอ ขณะนี้ป่วยใช้เตียงของโรงพยาบาลอยู่ 144 คน ทั้งที่จริงรองรับได้ 140 คนเท่านั้น จนเต็มศักยภาพ ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ป่วยหนัก แต่ย้ายไปเตียงไอซียูไม่ได้ เพราะเตียงไอซีเต็ม 5 เตียง เมื่อขยับไปไหนไม่ได้อีก ทำให้มีผู้ป่วยตกค้างอยู่ที่ห้องฉุกเฉินล้นมาที่ลานจอดรถ 22 คน โดยผู้ป่วยกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ถูกปฏิเสธจากโรงพยาบาลอื่น ทั้งโรงพยาบาลรัฐ และเอกชน ซึ่งเริ่มมีอาการไม่สามารถให้กลับไปรักษาที่บ้านได้แล้ว

ที่ผ่านมาแม้จะพยายามหมุนเวียนเตียงให้ผู้ป่วยที่รักษาในโรงพยาบาลแล้วอาการเริ่มดีขึ้น ให้ย้ายไปที่โรงพยาบาลสนาม หรือ ฮอลพิเทลแต่ก็ช่วยได้ไม่มาก เพราะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกวัน ทั้งนี้ก็มีแผนจะขยายหอผู้ป่วยอีก แต่อาจเพิ่มได้ไม่มาก เพราะบุคลากรไม่เพียงพอ ซึ่งนอกจากจะดูแลผู้ป่วยคนอื่นที่ไม่ติดโควิดแล้ว ยังต้องแบ่งมาดูแลที่โรงพยาบาลสนาม  ฮอสพิเทล  ไอซียูส่วนต่อขยาย บางแห่งอีก ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของโรงพยาบาลด้วย

ยอมรับขณะนี้บุคลากรทุกคนเหนื่อยล้าเต็มที่ แต่ก็พยายามจะให้กำลังใจทุกคน ให้นึกถึงคนไข้ที่ลำบาก หนีร้อนมาพึ่งเย็น

ด้านนายแพทย์นายแพทย์สุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กทม. ระบุว่า ขณะนี้พื้นที่กทม.ไม่ใช่แค่ที่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์เท่านั้นที่เกิดกรณีผู้ป่วยโควิดตกค้างอยู่ที่ห้องฉุกเฉิน แต่แทบทุกโรงพยาบาลในกทม.ขณะนี้ก็ประสบกับปัญหาเดียวกัน สาเหตุใหญ่เพราะจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น ไม่สอดคล้องกับจำนวนเตียงที่มี ทำให้บางโรงพยาบาลถึงกับต้องปิดห้องฉุกเฉิน เพราะไม่สามารถให้บริการได้

ทั้งนี้ กทม.  กรมการแพทย์  เครือข่ายโรงเรียนแพทย์ และโรงพยาบาลเอกชน มีการพูดคุยหาแนวทางเพิ่มขีดการขยายเตียง โดยแนวทางที่เป็นได้มากที่สุดในขณะนี้ และสามารถทำได้เลยภาย ในสัปดาห์นี้คือ ให้โรงพยาบาลที่มีศักยภาพประมาณ 50 แห่ง จาก 168 แห่งปรับหอผู้ป่วยบางแผนกที่คนไข้น้อย ให้กลายเป็นหอผู้ป่วยโควิด หรือ โคฮอทวอร์ด สำหรับผู้ป่วยสีเหลือง ได้เพิ่มโรงพยาบาลละ 20 – 40 คน ก็คาดว่า จะขยายรองรับได้ประมาณ 1,000 – 2,000 คน ส่วนการหาพื้นที่ทำโรงพยาบาลสนามเพิ่ม อยู่ระหว่างการหาสถานที่ ที่จะสามารถสร้างได้จำนวนหลักพันเตียง เพื่อให้รับผู้ป่วยในจำนวนที่มาก แต่ก็ต้องยอมรับว่า งบประมาณ และระยะเวลาที่นาน ไม่ทันต่อสถานการณ์ผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้สิ่งที่กำลังดำเนินการในขณะนี้คือ การปรับเปลี่ยนการรักษาโดยผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวจะให้รักษาที่บ้าน หรือ โฮมไอโซเลชั่น ส่วนโรงพยาบาลสนามก็ให้ปรับรักษาผู้ป่วยสีเหลืองทั้งหมด ส่วนในฮอลพิเทลเพิ่มเตียงสำหรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ 10 เปอร์เซนต์ เพื่อเพิ่มขีดจำกัดในการรับผู้ป่วย ให้สอดคล้องกับตัวเลขที่เพิ่มขึ้นทุกวัน จากเดิมที่เคยมีเตียง 2,100 เตียง ขณะนี้เพิ่มทั้งในโรงพยาบาลสังกัดกทม.  โรงพยาบาล  ฮอสพิเทลเกือบ 5,000 เตียง แต่ปัญหาก็คือ บุคลากรทางการแพทย์มีเท่าเดิม  

ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อวันนี้ พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ โฆษก ศบค.รายงาน พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม15,376 คน แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 14,335 คน และพบจากเรือนจำ 1,041 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ระลอกเดือนเมษายนแล้ว 483,815 คน หายป่วยวันนี้ 6,782 คน และเสียชีวิต 87 คน

มันคือสงครามโรค “ได๋ ไดอาน่า” โพสต์เล่าความจริง แม้จะดูใจร้าย

คลายสงสัยชาติ ROC และ EOR ในโอลิมปิก 2020

 

TOP สุขภาพ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ