หน้ากากอนามัยถือเป็นอาวุธสำคัญที่เราต้องใส่เมื่อเดินทางออกไปในที่สาธารณะ หรือแม้แต่อยู่ในบ้านที่มีคนพักอาศัยร่วมกันเยอะ เพราะมีการวิจัยและยืนยันจากแพทย์แล้วว่าการใส่หน้ากากอนามัยสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อ และการแพร่เชื้อโควิด 19 ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งถ้าใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้นด้วย ก็จะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ถึง 95 % โดยมีข้อแม้ว่าต้องใส่หน้ากากอนามัยด้านใน และทับด้วยหน้ากากผ้าด้านนอก หรือบางคนก็อยากสวมเฟซชิลด์แทนการใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้นก็สามารถทำได้
กรมอนามัย เตือนคนเก็บของเก่า ไม่สวมถุงมือ หน้ากากอนามัย เก็บขยะเสี่ยงติดเชื้อโควิด
วิธีใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง เมื่อโควิด-19 กลับมาเยือนไทยอีกครั้ง
แต่การใส่เฟซชิลด์ก็ยังต้องสวมคู่กับหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าจึงสามารถป้องกันการรับเชื้อและแพร่กระจายเชื้อได้เป็นอย่างดี
ในขณะที่ไทย ได้แต่เพียงรณรงค์ให้คนใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น แต่ทางสหรัฐอเมริกา โดยสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม (EPA) ได้ทำการทดสอบประสิทธิภาพการกรองอากาศและเชื้อโรค (FFE) ของหน้ากากอนามัยเมื่อใส่ควบคู่กับอุปกรณ์อื่นหรือลองปรับเปลี่ยนรูปแบบวิธีรัดสายคล้องหูและผลปรากฎว่า การใส่หน้ากการอนามัยโดยใช้ถุงน่องช่วยรัด มีประสิทธิภาพในการกรองอากาศและเชื้อโรค ได้สูงถึง 80.2 %
ส่วนการลองใช้เทคนิคการใส่หน้ากาก โดยการไขว้สายให้แน่นขึ้น ทำให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันสูงขึ้นมาจากการใส่แบบเดิมเกือบ 2 เท่า โดยถ้าใส่หน้ากากอนามัยแบบปกติค่า FFE จะอยู่ที่ 38.5% แต่ถ้าไขว้สาย ค่า FFE จะอยู่ที่ 60.3 %
ซึ่งวิธีการไขว้สายหน้ากากอนามัยแล้วใส่น่าจะเป็นวิธีที่เหมาะกับบ้านเรามากกว่าการใส่หน้ากากอนามัยแล้วใช้ถุงน่องรัดหน้า เรียกได้ว่าเป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง
โดยเฉพาะคนที่มีใบหน้าเล็ก เพราะมันจะช่วยให้แนบด้านข้างได้มากขึ้นนั่นเองแต่ถ้าคนไม่มีดั้งให้หน้ากากอนามัยเกาะ ก็ลองหาซื้อเทป Micropore มาแปะช่วยให้อากาศไม่รั่วเข้าไปด้านในได้อีกทางหนึ่ง
ที่มา : Facebook หมอเวร, Siriraj Piyamaharajkarun Hospital
และเว็บไซต์ : https://www.epa.gov/sciencematters ,