ส่งผลให้ระดับสารสื่อประสาทอซิติลโคลีน (Acetylcholine) ลดลง มีผลกระทบต่อความคิด ความทรงจำ และพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ทุกคนล้วนทราบกันดีว่าโรคอัลไซเมอร์ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่นั้นไม่ได้แปลว่าเราไม่สามารถจัดการกับสาเหตุของโรคได้ เพราะก่อนที่ผู้ป่วยจะแสดงอาการและได้รับการวินิจฉัย โรคนี้ใช้เวลาพัฒนาอยู่เงียบๆ นานหลายสิบปี คล้างคลึงกับโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูงอย่างที่หลายคนรู้จักกัน เช่น หากผู้ป่วยเริ่มแสดงอาการตอนอายุประมาณ 70 ปี หมายความว่าโรคอัลไซเมอร์อาจได้ก่อตัวตั้งแต่เมื่อ 20 ปีที่แล้ว
ผู้หญิงเสี่ยง “อัลไซเมอร์” มากกว่าผู้ชาย
9 ปัจจัยเสี่ยงสู่ภาวะสมองเสื่อม
และนี้คือช่วงเวลาสำคัญที่เราสามารถเข้าไปแทรกแซง เพื่อชะลอการพัฒนาของโรคและยืดเวลาออกไปได้อีก 10-20 ปี จนผู้ป่วยมีอายุ 90-100 ปีได้
คาดอีก 30 ปี ทั่วโลกสมองเสื่อม 139 ล้านคน
วิจัยเผยอยู่ใกล้ย่านรถติดเสี่ยงสมองเสื่อม
วีถีชีวิตที่ดี (Healthy Lifestyle) ปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์
1. การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ - งานวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าอาหารมีผลกระทบอย่างมากต่อการพัฒนาของโรค ผู้ที่รับประทานข้าวไม่ขัดสี ธัญพืช ผักผลไม้เป็นประจำ, เลือกแหล่งโปรตีนจากปลาและถั่วหลากชนิด, ลดการกินของทอด และเลี่ยงอาหารที่มีรสชาติเค็มจัด หวานจัด มีการทำงานของสมองที่เฉียบคมเท่ากับคนที่มีอายุน้อยกว่าตนเองถึง 7.5 ปี
2. การออกกำลังกายเป็นประจำ – การออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ ส่งผลดีต่อสุขภาพหลายอย่าง งานวิจัยที่ใช้เวลาติดตามนานถึง 44 ปี พบว่าผู้หญิงที่ออกกำลังกายเป็นประจำ เริ่มป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมช้ากว่ากลุ่มที่ไม่ได้ออกกำลังกายนานถึง 10 ปี
3. นอนหลับอย่างมีคุณภาพ – ขณะที่เรานอนหลับลึก (deep non-REM sleep) สมองจะกำจัดโปรตีนเบต้า-อะไมลอยด์สาเหตุสำคัญของการเกิดโรคอัลไซเมอร์ ผ่านกระบวนการชำระล้างสมอง (Glymphatic System) เพราะฉะนั้นควรรีบเข้านอนเวลาเดิมเป็นประจำ และหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์ เพราะแสงสีฟ้าจะรบกวนการนอนได้
4. บรรเทาความเครียด – เพราะความเครียดเรื้อรังเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่พัฒนาไปสู่โรคสมองเสื่อมได้ การหาวิธีผ่อนคลายความเครียดจึงเป็นสิ่งจำเป็น เช่น การทำสมาธิ ฝึกลมหายใจ ปลูกต้นไม้ หรือทำงานอดิเรกที่ชื่นชอบก็ช่วยผ่อนคลายความเครียดได้
5. เลือกอาหารเสริมที่เหมาะสมกับร่างกาย – สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น เบต้าแคโรทีน วิตามินซี วิตามินอี วิตามินดี ช่วยลดอนุมูลอิสระ (oxidative stress) ซึ่งเป็นสาเหตุความเสื่อมของเซลล์ได้ อย่างไรก็ตามแนะนำให้ตรวจระดับวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระในเลือด เพื่อให้สามารถเลือกรับประทานอาหารเสริมที่เหมาะสมกับร่างกายมากที่สุด
6. ทำกิจกรรมที่ส่งเสริมการทำงานของสมองเป็นประจำ – กิจกรรมประเภทการอ่านหนังสือ การเขียน การทายปริศนา การเล่นเกมส์ที่ส่งเสริมสมอง เช่น หมากรุก อักษรไขว้ รวมถึงการเข้าสังคมและทำกิจกรรมแบบกลุ่ม เช่น การเต้นลีลาศ ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองและชะลอการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ถึง 5 ปี
ถึงแม้ว่าโรคอัลไซเมอร์จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่การมีพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพ สามารถชะลอการเกิดของโรคออกไปได้ยาวนานถึง 10 ปี ดังนั้นจึงเป็นเรื่องคุ้มค่ามากถ้าจะเริ่มต้นปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสียตั้งแต่วันนี้
งานวิจัย เผย คิดลบซ้ำซากเสี่ยงสมองเสื่อมเพิ่ม
ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก BDMS Wellness Clinic
แหล่งอ้างอิง
1. Morris MC, Tangney CC, Wang Y, Sacks FM, Barnes LL, Bennett DA, et al. MIND diet slows cognitive decline with aging. Alzheimer's & dementia. 2015;11(9):1015-22.
2. Hörder H, Johansson L, Guo X, Grimby G, Kern S, Östling S, et al. Midlife cardiovascular fitness and dementia: a 44-year longitudinal population study in women. Neurology. 2018;90(15):e1298-e305.
3. Wilson RS, Wang T, Yu L, Grodstein F, Bennett DA, Boyle PA. Cognitive Activity and Onset Age of Incident Alzheimer Disease Dementia. Neurology. 2021.