ไฟเซอร์ บริษัทผู้ผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐฯเปิดเผยรายงานชุดใหม่เกี่ยวกับผลการทดลองทางคลินิกของวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในเด็กอายุระหว่าง 5 – 11 ขวบ ราว 2,250 คนเมื่อวานนี้ โดยมีเด็กในกลุ่มยาหลอกติดเชื้อโควิดจำนวน 16 คน ขณะที่กลุ่มที่วัคซีนติดเชื้อโควิด 3 คน และเมื่อคำนวณจากสัดส่วนผู้ได้รับวัคซีน ซึ่งมีจำนวนมากกว่าผู้ที่ได้รับยาหลอกแล้ว เท่ากับว่าวัคซีนของไฟเซอร์มีประสิทธิภาพในเด็กเล็กถึง 90.7%
สิงคโปร์อนุมัติ เตรียมฉีดวัคซีนโควิด-19 ไฟเซอร์ในเด็ก 12-15 ปี
“ไฟเซอร์” เผยผลทดสอบวัคซีนโควิด-19 ในเด็ก 12-15 ปี มีประสิทธิภาพสูง
ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่า ไม่พบเด็กที่ได้รับวัคซีนแล้วติดโควิดแสดงอาการรุนแรง หรือมีภาวะอักเสบทั่วร่างกาย ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้ยากในเด็ก หลังติดเชื้อโควิด
นอกจากนี้ยังไม่มีรายงานพบภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลันในเด็กที่เข้าร่วมการทดลองฉีดวัคซีน ซึ่งอาจเป็นเพราะอาสาสมัครไม่ได้มีจำนวนมากพอที่จะสามารถพบผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ยาก และกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่อาจเกิดภาวะดังกล่าวคือ "วัยรุ่นชาย" ครั้งแรกที่ "ไฟเซอร์" เผยแพร่ผลการประเมินประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในเด็กเล็ก
ก่อนหน้านี้ "ไฟเซอร์" เคยแถลงเกี่ยวกับการทดสอบการใช้วัคซีนปริมาณ 10 ไมโครกรัมในเด็กที่อยู่ในช่วงอายุดังกล่าวพบว่าปลอดภัยและตอบสนองต่อการกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี ขณะที่กลุ่มที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไปต้องใช้วัคซีนในปริมาณ 30 ไมโครกรัม
ด้านฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ระบุว่า พร้อมจะเปิดตัวโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดในเด็กอายุระหว่าง 5 - 11 ขวบ ซึ่งมีจำนวน 28 ล้านคนทั่วประเทศทันที หลังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ (FDA) อนุมัติ โดยวันอังคารที่จะถึงนี้ ที่ปรึกษาภายนอกของ FDA มีการประชุมเพื่อโหวตว่าจะแนะนำให้ FDA อนุมัติให้วัคซีนดังกล่าวในเด็กช่วงอายุดังกล่าวหรือไม่