เครื่องสำอางผสม “ปรอท” ความขาวที่แลกกับปัญหาผิวระยะยาว


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เป็นที่รู้กันว่า “ปรอท” เป็นหนึ่งในสารต้องห้ามในเครื่องสำอาง เพราะแม้จะทำให้ผิวขาวในระยะอันสั้น แต่ในระยะยาวจะทำให้ผิวบาง เกิดฝ้าอย่างถาวรได้

เป็นกรณีที่มีกระแสอยู่ในโลกโซเชียล หลังเพจเฟซบุ๊ก "หมอแล็บแพนด้า"  โพสต์รูปภาพและข้อความของหญิงสาวรายหนึ่ง ที่ระบุถึงการใช้ครีมที่มีส่วนผสมปรอท ในลักษณะที่ว่า ถึงจะทำให้ผิวบาง จะเป็นมะเร็ง ก็จะใช้ เพราะเป็นความชอบส่วนบุคคล และมั่นใจว่า ปรอท คือที่สุดแห่งวงการผิว จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ถึงอันตรายที่อาจจะขึ้นจากการสะสมของสารดังกล่าวจนอาจเป็นอันตรายต่อรางกายและผิวหนังในอนาคต
ทลายโรงงานครีมเถื่อน ผลิตส่งรายย่อย พบสารอันตรายเพียบ สเตียรอยด์-ปรอท
ปคบ.บุกจับแหล่งผลิต “ครีมเขมรฝาแดง”

ทีนี้เราลองมาดูกันว่า ทำไม เราถึงไม่ควรใช้เครื่องสำอาง หรือครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของปรอท และยังมีสารอะไรอีกบ้างที่ "ต้องห้าม" เพราะหากใช้นาน ๆ อาจเป็นอันตราย
     สารปรอทและประกอบปรอท เป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เพราะมีฤทธิ์ทำลายไต ระบบประสาท เยื่อบุและทางเดินหายใจ ดังนั้น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารปรอท เช่น สารปรอทแอมโมเนียติดต่อกันเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดการสะสมที่ผิวหนังและถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดทำให้ตับและไตอักเสบ เกิดโรคโลหิตจาง ทางเดินปัสสาวะอักเสบ ทำลายสีของผิวหนังและเล็บมือ ทำให้ผิวหนังบางขึ้นเรื่อยๆ เกิดการแพ้ เป็นแผลเป็น หรืออาจมีความเป็นพิษเฉียบพลันได้
     นอกจากนี้ หากปรอท สะสมที่ผิวหนังนาน ๆ ก็จะพิษต่อผิวหนัง  แม้ว่าสารปรอทจะมีผลทำให้เม็ดสีลดลง แต่ก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ และหากใช้ในระยะยาว จะทำให้ผิวบางลง เกิดจุดดำที่ผิวเพิ่มขึ้น เกิดฝ้าถาวร หรือในบางจุดจะทำให้เกิดผิวด่างถาวร

     ไฮโดรควิโนน ออกฤทธิ์โดยการยับยั้งกระบวนการทางเคมีของเซลล์สร้างเม็ดสี และเมื่อปริมาณเม็ดสีลดลง จึงส่งผลให้ผิวขาวขึ้น จากกลไกนี้ทำให้ยาไฮโดรควิโนน ถูกนำมาใช้เป็นยาทารักษาผิวที่เป็นฝ้า กระ และจุดด่างดำ
     แต่หากใช้มากเกินไปอาจทำให้เกิดการแพ้ ระคายเคือง อักเสบ หน้าแดง อาการแสบร้อน ตุ่มแดง และภาวะผิวคล้ำมากขึ้นในบริเวณที่ทา หากใช้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดเป็นฝ้าถาวร และเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังด้วย

     สเตียรอยด์ เป็นอีกชนิดที่มีส่วนในการยับยั้งการสร้างเม็ดสี ทำให้ปริมาณเม็ดสีลดลงส่งผลให้ผิวขาวขึ้น มัและกใช้เป็นสูตรผสมกับยาตัวอื่น เช่น ไฮโดรควิโนน หรือ เรตินอยด์ในการรักษา ฝ้า กระ และจุดด่างดำ
     แต่หากในความเข้มข้นสูง ใช้ผิดวิธี และ ใช้เป็นระยะเวลานานต่อเนื่อง อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงทั้งภายนอกและภายในร่างกาย เช่น ผดผื่นขึ้นง่าย ผิวหน้าบาง ทำให้มลภาวะสารพิษจากภายนอกเข้าสู่ผิวหนังชั้นแท้ได้ง่ายขึ้น และเห็นเส้นเลือดแดงตามใบหน้าชัดขึ้น

     กรดเรติโนอิก มีผลรบกวนกระบวนการสร้างเม็ดสี นอกจากนี้ยังออกฤทธิ์กดการสร้างและป้องกันการสร้างสิวอุดตัน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวทั่วไป
     อย่างไรก็ตาม ก็อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหนัง ผิวหน้าลอก อักเสบ แพ้แสงแดดได้ง่าย อาจเกิดภาวะผิวด่างขาวหรือผิวคล้ำได้ชั่วคราวและอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์

ดังนั้น ควรสังเกตฉลากผลิตภัณฑ์ หลีกเลี่ยงยี่ห้อที่ไม่มีฉลากภาษาไทยไม่แสดงผู้ผลิต วันเดือนปีที่ผลิต เพื่อการใช้เครื่องสำอางอย่างปลอดภัยทั้งต่อร่างกายและผิวของเรา

“โอ๊ยร้อน ดำหมดแล้ว” มาทางนี้! 5 วิธีดูแลผิวหลังโดนแดด

อย.ย้ำความจริง แม่ตั้งครรภ์ดื่มโกโก้ไม่ทำให้ลูกผิวคล้ำขึ้น

ที่มา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล, กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

TOP สุขภาพ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ