เฉลยเรื่องจริง...ประโยชน์ของกระเทียม ที่ช่วยฆ่าเชื้อโรค ลดความดันได้


โดย PPTV Online

เผยแพร่




อย่างที่ทราบกันดีว่า กระเทียม เป็นเครื่องเทศที่ถูกนำมารังสรรค์ในเมนูอาหารที่หลากหลาย แต่รู้หรือไม่ว่ากระเทียมยังสรรพคุณในการช่วยฆ่าเชื้อโรค และลดความดันโลหิตได้ด้วย

กระเทียม จัดเป็นพืชตระกูลเดียวกับหัวหอมที่ถูกนำมาใช้ในการประกอบอาหารหลากหลายเมนู อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการ เพิ่มรสชาติอาหารให้อร่อย เข้มข้นมากขึ้น กลิ่นหอม รวมไปถึงยังมีความเชื่อว่า กระเทียมมีสรรพคุณทางยา ในการช่วยบรรเทาอาการและรักษาโรคได้หลากหลาย และจากการศึกษาข้อมูลจากอาจารย์ประจำหลักสูตรโภชนาการ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิด ก็พบว่า สรรพคุณของกระเทียมนั้น สามารถรักษาโรคได้จริง แต่จะมีอะไรบ้างไปดูกัน 

ไม่อยากเป็นหวัด ต้องทานอาหารเหล่านี้ช่วยเพิ่มภูมิคุ้นกันต่อสู้กับไข้หวัดที่มาพร้อมกับหน้าฝน

รู้หรือไม่? 8 อาหารใกล้ตัว ดีต่อสุขภาพ

โดยสรรพคุณกระเทียมที่ได้รับการยืนยันแล้วคือ การรับประทานกระเทียม สดๆ ด้วยการปลอกเปลือกและรับประทานโดยตรงเลย สามารถที่จะฆ่าเชื้อโรคบางชนิดได้อันนี้เนื่องจากสารประกอบที่อยู่ในกระเทียม อาทิ กลุ่มซัลเฟอร์ และอัลลิซิน ที่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรคที่อยู่ในทางเดินอาหารที่ก่อให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษซึ่งหากรับเชื้อโรคในปริมาณที่ไม่มากก็จะช่วยบรรเทาอาการ หรือป้องกันไม่ให้เกิดอาหารเป็นพิษ

รวมไปถึงการทานกระเทียมทุกวัน เป็นประจำจะช่วยป้องกันโรคความดันหรือช่วยลดความดันได้ เนื่อง จาก กระเทียม จะไปช่วยการทำงานของกล้ามเนื้อเรียบ และจะไปช่วยการขยายตัวของหลอดเลือดโดยการเพิ่ม ไนตริกออกไซค์ ซึ่งทำให้หลอดเลือกเกิดการขยายตัวเป็นผลทำให้ความดันเลือดลดลง

แต่ในทางกลับกัน แต่ในทางกลับกันคนที่เป็นความดันต่ำ แล้วกินกระเทียมเพื่อช่วยในเรื่องของความดันให้สูงขึ้นอาจจะไม่ช่วยอะไร

ส่วนการจะทานกระเทียมให้ได้ประโยชน์สามารถทำได้ดังนี้  คือ

1. ควรรับประทานวันละ 5-6 กลีบ ต่อวัน โดยสามารถรับประทานทั้งแบบสด หรือดอง หรือนำไปปรุงเป็นอาหารก็ได้ 

2. กระเทียมเก่า กระเทียมที่เก็บไว้นาน ไม่ควรนำารับประทานเพราะอาจปนเปื้อนเชื้อรา สารอะฟลาทอกซินได้ ซึ่งเป็นอัตรายต่อร่างกาย 

รู้จักกับ “ไข่ผำ หรือ ผำ” อาหารยอดนิยมคนไทย หลังรัฐเตรียมดันเป็นซุปเปอร์ฟู้ดของโลก

ปัญหาเชื้อราขึ้นตามจุดต่างๆ หลังน้ำลดกำจัดได้ง่าย ด้วย 3 ขั้นตอนนี้

คนที่ควรเลี่ยงการรับประทานกระเทียมคือ 
1. กลุ่มที่ต้องรับประทานยาละลายลิ่มเลือดเป็นประจำหรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด ในกลุ่ม วาร์ฟาริน หรือ แอสไพริน เนื่องจากกระเทียมมีฤทธิ์ช่วยในการต้านการแข็งตัวของเลือดอยู่แล้ว ซึ่งหากทานกระเทียมเข้าไป พร้อมกับยาจะกลายเป็นเสริมฤทธิ์ กันและส่งผลเป็นอันตรายกับผู้ทานได้ 

2. กลุ่มคือผู้ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดที่ต้องงดทานกระเทียม 1 - 2 สัปดาห์ 

 

ที่มาข้อมูล 
รศ.ดร.เอกราช เกตวัลห์ อาจารย์ประจำหลักสูตรโภชนาการ สถานบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล 

TOP สุขภาพ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ