นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า ภูมิคุ้มกันในเลือดที่เคยต่อสู้กับไวรัสสายพันธุ์เดลต้าได้ดีตอนนี้เมื่อเจอโอมิครอนลดลงทุกสูตร ซึ่งสอดคล้องกับข้อสัณนิษฐานก่อนหน้าว่า การกลายพันธุ์ของโควิด-19 น่าจะหลบวัคซีนได้ค่อนข้างมาก และจะเห็นว่าสายพันธุ์โอมิครอน ระหว่างกลุ่มที่ฉีดวัคซีน 2 เข็ม และ 3 เข็ม เมื่อเทียบกันแล้วพบว่า กลุ่มที่ฉีด 3 เข็ม (บูสเตอร์โดส) ภูมิคุ้มกันจะขึ้นค่อนข้างดีกว่า
หมอโอภาส แจงขั้นตอน ไทม์ไลน์ วัคซีนไฟเซอร์ ปักเข็มแรก 9 ส.ค. 64
อนามัยโลกแนะนำยาเพิ่มอีก 2 ตัว เพิ่มทางเลือกรักษาโควิด-19
ตรวจหวย- ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 17 มกราคม 2565 ลอตเตอรี่ 17/1/65
สำหรับการเทียบ ระดับภูมิคุ้มกันในกรณีได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น (บูสเตอร์โดส) ระหว่างสายพันธุ์เดลตา และ โอมิครอน พบว่า
สูตร ซิโนแวค+ซิโนแวค+ไฟเซอร์ ระดับภูมิคุ้มกันต่อเดลตาอยู่ที่ 729.30 ขณะที่ระดับภูมิคุ้มกันต่อโอมิครอนอยู่ที่ 282.5 ลดลง 2.58 เท่า
สูตร แอสตร้าเซเนก้า + แอสตร้าเซเนก้า + ไฟเซอร์ ระดับภูมิคุ้มกันต่อเดลตาอยู่ที่ 691.10 ขณะที่ระดับภูมิคุ้มกันต่อโอมิครอนอยู่ที่ 229.9 ลดลง 3.10 เท่า
สูตร ซิโนแวค+ซิโนแวค+แอสตร้าเซเนก้า ระดับภูมิคุ้มกันต่อเดลตาอยู่ที่ 368.10 ขณะที่ระดับภูมิคุ้มกันต่อโอมิครอนอยู่ที่ 71.64 ลดลง 5.14 เท่า
ข้อมูลใหม่จากแอสตร้าเซเนก้าสำหรับใช้ "กระตุ้นเข็ม 3"
เช็กที่นี่! รวมจุดฉีดวัคซีน รพ.ในชลบุรี ที่เปิด walk in เข็ม 1-3 วันที่ 17-23 ม.ค. 65
นพ.ศุภกิจ สรุปว่า จากการหาระดับภูมิคุ้มกันแบบลบล้างฤทธิ์ ต่อเชื้อไวรัสจริงในห้องปฏิบัติการ BSL-3 โดยวิธี PRNT: Plaque Reduction Neutralization Test วัคซีนทุกสูตรยังช่วยลดความรุนแรงและการเสียชีวิตของผู้ป่วยในทุกสายพันธุ์ ในสนามจริง (real world) และการฉีดวัคซีนยังมีความจำเป็น โดยเฉพาะเข็มกระตุ้น (booster dose) เพื่อให้ภูมิคุ้มกันมากพอที่ลด การแพร่ การติดเชื้อ การเจ็บป่วยรุนแรง หรือการเสียชีวิตได้มากขึ้น
ขณะเดียวกัน ยังอยู่ระหว่างการศึกษา และหาตัวอย่างเลือดของสูตรไขว้ ซิโนแวค+แอสตร้าเซนเนก้า ตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้า หรือไฟเซอร์ และอยู่ระหว่างการศึกษาว่า กรณีที่มีการติดเชื้อโอมิครอนแล้วจะมีภูมิคุ้มกันในการป้องกันเดลตาหรือไม่