ตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นตัวแข็งแกร่งจากรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน โดยดัชนีตลาดหุ้นวอลล์สตรีทขยับขึ้นต่อเนื่องวันที่ 4
นักลงทุนให้น้ำหนักกับผลประกอบการเป็นปัจจัยบวกที่มีน้ำหนักมากกว่าข่าวธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งเป็นปัจจัยหลักทำให้เกิดแรงเทขายอย่างหนักเมื่อเดือนที่ผ่านมา
ดัชนีดาวโจนส์ บวก 224.09 จุด หรือ 0.6% ปิดที่ 35,629.33 จุด ดัชนี S&P 500 บวก 42.84 จุด หรือ 0.9% ปิดที่ 4,589.38 จุด และดัชนี Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 71.54 จุด หรือ 0.5% ปิดที่ 14417.55 จุด
บิตคอยน์ร่วงหนัก รายย่อย"ไม่เข็ด" คาดราคาวิ่งใน 6 เดือน
หุ้นบวกต่อเนื่องวันที่ 3 ตามต่างประเทศ แรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการ
โมเดอร์นาเริ่มทดสอบในมนุษย์ วัคซีนป้องกันเอชไอวี (HIV) ชนิด mRNA
ตลาดหุ้นฟื้นตัวในสัปดาห์นี้ หลังจากเดือนที่ผ่านมา เป็นเดือนที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่การระบาด เนื่องจากนักลงทุนขายอย่างหนักทั่วกระดาน จากความวิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรง เพื่อสกัดเงินเฟ้อสหรัฐปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
นักวิเคราะห์กล่าวว่าแต่รายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะบรรดาบริษัทไฮเทคยักษ์ใหญ่ ที่มีรายได้สูงขึ้น ช่วยหนุนตลาดฟื้นตัว บดบังปัจจัยเฟดและเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว ซึ่งขณะนี้บรรดาบริษัทจดทะเบียนกว่าครึ่งได้รายงานผลประกอบการแล้ว และมีผลดำเนินการเฉลี่ยมากกว่าบรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
"ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนกับเรื่องทิศทางเศรษฐกิจ รวมถึงความกังวลเฟด จะทำให้ตลาดมีความผันผวนมากขึ้นในระยะต่อไป รายได้ของบริษัทจดทะเบียนที่ประกาศออกมาเป็นปัจจัยกระตุ้นชั่วคราว"