SHR ทุ่ม 7.3 พันล้าน ลุยซื้อโรงแรม-ควบรวมกิจการ ตั้งเป้าปี 65 รายได้โตทุบสถิติ 88%


โดย PPTV Online

เผยแพร่




บมจ.เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ตั้งงบลงทุน 8,500 ล้านบาท ลุยซื้อโรงแรมและควบรวมกิจการภายใน 3 ปี เผยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกฟื้นฟู ปี 65 ตั้งเป้ารายได้โต 88% ทำสถิติสูงสุดใหม่

จับตา "inverted yield curve" สัญญาณวิกฤตกำลังมาอีกรอบ

วัฏจักรเศรษฐกิจไทย-โลก "กำลังจะเปลี่ยน" ในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า

นายเดิร์ก เดอ คุยเปอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน)  หรือ SHR  เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางแผนงบลงทุนในอีก 3 ปีข้างหน้า รวมกว่า 7.3 พันล้านบาท เพื่อขยายการลงทุนสร้างการเติบโต  โดยแบ่งเป็น งบลงทุน 2.8 พันล้านบาท ปรับพอร์ตโรมแรงในสหราชอาณาจักร และลงทุนก่อสร้าง “โซ/ มัลดีฟส์” (SO/Maldives) รีสอร์ตแห่งใหม่ในมัลดีฟส์ ซึ่งมีแผนเปิดตัวโครงการในปี 2566

ทั้งนี้ บริษัทฯได้วางแผนการลงทุนใหม่ในการเข้าซื้อและควบรวมกิจการ โดยมองหาโรงแรมในแถบเอเชียแปซิฟิก ทะเละเมดิเตอร์เรเนียนและมหาสมุทรอินเดียว คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 4.5 พันล้านบาท  ตั้งเป้าอัตราผลตอบแทนภายใน (IRR) 12-14%               

 

นายเดิร์ก เดอ คุยเปอร์ กล่าวต่อว่า ในปี 2565 บริษัทตั้งเป้ารายได้ 8,500 ล้านบาท เติบโต 88% เมื่อเทียบกับปีก่อน ถือเป็นการทำลายสถิติสูงสุดใหม่ ด้วยปัจจัยหนุนจากการฟื้นฟูของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างรวดเร็วต่อเนื่องในหลายภาคส่วนของโล ซึ่งคาดการณ์ว่าธุรกิจโรงแรมจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง รวมถึงโรงแรมของ SHR โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักร คาดว่าจะสร้างรายได้ของรายได้รวมทั้งหมดติดเป็น 44% สาธารณรัฐมัลดีฟส์ 28% ประเทศไทย 13% และฟิจิ 5% 

ขณะเดียวกันคาดการณ์ว่าโรงแรมในสหราชอาณาจักร รายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืน จะฟื้นตัวกลับมาเท่ากับปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  และโรงแรมในสาธารณรัฐมัลดีฟส์จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งเช่นกัน เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวทยอยเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้จากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนในห้วงเวลาดังกล่าวมีจำนวน 168,491 คน มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปี 2563 และ 2564 เกินกว่า 45%

นอกจากนี้ยังคาดว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศอื่น ได้แก่ สาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ สาธารณรัฐมอริเซียส และประเทศไทย จะยังสามารถเติบโตต่อไป เนื่องจากรัฐบาลของประเทศต่าง ๆ เริ่มออกมาตรการผ่อนปรนด้านการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวภายหลังการแพร่ระบาด

อย่างไรก็ตามโรงแรมได้จัดแพ็กเกจที่พักพร้อมกิจกรรมด้านการท่องเที่ยว เช่น การมีศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล ที่ ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ  หรือ ศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมมัลดีฟส์  ที่ โครงการ ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ ซึ่งจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 15% คาดว่าจะช่วยสร้างรายได้เฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 20-25% ให้กับโรงแรมในปีนี้

สำหรับการพัฒนาแพลตฟอร์ในการจองที่พักโดยตรงด้วยตนเอง ในปีที่ผ่านบริษัทฯมีรายได้จากช่องทางจองที่พักโดยตรงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากแพลตฟอร์มสำหรับการจองห้องพักของบริษัทฯถูกปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับเงื่อนไขของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ทำให้การจองห้องพักง่ายและรวดเร็ว บริษัทฯคาดว่ารายได้จากช่องทางดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็น 30% ของรายได้รวมทั้งหมด

TOP หุ้น การลงทุน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ