CPALL กำไรปี 64 ลดลง 19.4% ที่ 12,985 ล้านบาท เหตุมาตรการโควิดฉุดลูกค้าร้านสะดวกซื้อ
BDMS ไตรมาส 1 โชว์กำไร 3,443 ล้านบาท โต 157% ผู้ป่วยไทย-ต่างชาติเพิ่มขึ้น
สรุปเหรียญ ซีเกมส์ 2021 ล่าสุด ประจำวันจันทร์ที่ 23 พ.ค. 65
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ชื่อหลักทรัพย์ CPALL รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2565 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 3,453 ล้านบาท มีรายได้รวม 199,731 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุจากการรายได้ปรับเพิ่มขึ้น จากการขายและบริการธุรกิจร้านสะดวกซื้อ รวมถึงธุรกิจค้าส่งปลีกอุปโภคบริโภค ขณะที่ธุรกิจแม็คโครยังสามารถรักษาอัตราการเติบโตของรายได้จากการขายและบริการไว้ได้ รวมถึงรับรู้รายได้จากธุรกิจโลตัสส์เข้ามาทั้งจำนวนในไตรมาสนี้
กำไรขั้นต้นจากการขายและบริการ เท่ากับ 41,822 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และอัตรากำไรขั้นต้นในงบการเงินรวม 21.5% เพิ่มขึ้นจาก 12.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากธุรกิจร้านสะดวกซื้อมีอัตราการเติบโตของกำไรขั้นต้นที่ดีกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับธุรกิจอื่น
ต้นทุนการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหารเท่ากับ 38,295 ล้านลาท เพิ่มขึ้น 46.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ค่าใช้ต่ายกลุ่มต้นทุนในการจัดจำหน่ายอยู่ที่ 31,615 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.1% กลุ่มค่าใช้จ่ายในการบริหารอยู่ที่ 6,680 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 62.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักจากการรวมธุรกิจโลตัสส์ตั้งแต่สิ้นปีที่ผ่านมา
ณ สิ้นไตรมาส 1/2565 CPALL มีธุรกิจร้านสะดวกซื้อเปิดสาขาใหม่ 119 สาขา รวมมีทั้งหมดทั่วประเทศ 13,253 แบ่งเป็น
- ร้านสาขาบริษัท 6,394 สาขา ร้านปิดใหม่ 114 สาขาในไตรมาสนี้
- ร้าน SBP และร้านค้าที่ได้สิทธิช่วงอาราเขต 6,859 สาขา ร้านเปิดใหม่สุทธิ 5 สาขาในไตรมาสนี้
โดยธุรกิจร้านสะดวกซื้อ มีรายได้ 81,715 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนในไตรมาสนี้ มียอดขายเฉลี่ยต่อร้านต่อวัน เท่ากับ 73,460 ล้านบาท และยอดขายเฉลี่ยต่อร้านสาขาเพิ่มเพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมียอดซื้อต่อบิลประมาณ 84 บาท จำนวนลูกค้าต่อสาขาเฉลี่ย 871 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีสาเหตุจากการผ่อนคลายและยกเลิกมาตรการต่าง ๆ รวมถึงมีมาตรการกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ
ทั้งนี้สัดส่วนรายได้ของ ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ มาจากการขายมาจากสินค้ากลุ่มอาหาร 73.9% และสินค้าอุปโภค 26.1% ซึ่งสินค้ากลุ่มอาหารมีสัดส่วนการขายเพิ่มขึ้น เนื่องจากกลุ่มอาหารพร้อมทานอาหารพร้อมทำ และอาหารแปรรูปมีการเติบโตดี
ขณะเดียวกัน ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ยังมีรายได้อื่นอีก 5,203 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีการบันทึกเงินปันผลรับจากบริษัทย่อย 600 ล้านบาท ลดลง 40 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้านต้นทุนร้านสะดวกซื้อ อยู่ที่ 23,675 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากค่าบริหารงาน และค่าตอบแทนผลประโยชน์พนักงงาน
นอกจากนี้ CPALL เตรียมวางแผนลงทุนประมาณ 11,500-12,000 ล้านบาท เปิดร้านสะดวกซื้อสาขาใหม่อีก 700 สาขา ในปี 2565
โปรแกรมซีเกมส์ 2021 ของนักกีฬาไทย ประจำวันพฤหัสบดีที่ 12 พ.ค. 65
แนะอาหารผู้ป่วย "ลองโควิด" (Long COVID) เสริมวิตามินแร่ธาตุฟื้นฟูร่างกาย
โควิดวันนี้ (12พ.ค.65) ยอดติดเชื้อทะยานเพิ่มรวม PCR และ ATK เฉียด 1.6 หมื่นราย