บาทอ่อนเล็กน้อย แต่ยังผันผวน ระวังแรงขายสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.36 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” จากระดับปิดวันก่อนหน้า แต่ยังผันผวน ระวังแรงขายสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติ

แนวโน้มค่าเงินบาท กรุงไทยมองว่า แม้เงินบาทจะพอได้แรงหนุนในฝั่งแข็งค่า จากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์  แต่ยังคงมีแนวโน้มผันผวน โดยต้องระวังแรงขายสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติ ที่อาจกลับมาได้ทุกเมื่อ หากตลาดพลิกกลับมาปิดรับความเสี่ยงง

"ดอกเบี้ยขาขึ้น" จุดชนวนระเบิด "หนี้ครัวเรือน" และ วัฏจักรเศรษฐกิจขาลงที่ยาวนาน

อาหารจานเดียวทั่วไทย"แพงขึ้น" ข้าวผัดกะเพรา 1 จาน 60 บาท

ส่วนแรงขายหุ้นไทยอาจเริ่มชะลอลง หลังดัชนี SET ได้ย่อตัวมาใกล้โซนแนวรับสำคัญ อีกทั้งภาพตลาดหุ้นฝั่งเอเชียก็ยังดูสดใสหนุนโดยความหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนจากการทยอยผ่อนคลายมาตรการ Lockdown

(Correlation เงินบาท กับเงินหยวนของจีนในช่วงนี้อยู่ที่ราว 70%) ทำให้มองว่า เงินบาทยังมีโอกาสแกว่งตัว sideways โดยมีโซนแนวต้านแถว 35.50 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนโซนแนวรับยังคงอยู่ในช่วง 35.20-35.30 บาทต่อดอลลาร์

ราคาทองวันนี้ ( 28 มิ.ย.65) เปิดการซื้อขายเช้า ลงแรง 250 บาท

“เคอรี่” ตั้งเป้าพลิกมีกำไรปลายปี65 แย้มอาจปรับราคารับมือน้ำมันแพง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูง แนะนำ ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย เช่น ใช้ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.25-35.45 บาท/ดอลลาร์

ส่วน ตลาดค่าเงิน บรรยากาศในตลาดการเงินโดยรวมที่ทยอยเปิดรับความเสี่ยงได้กดดันให้ เงินดอลลาร์พลิกกลับมาอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY Index) ปรับตัวลดลงต่อเนื่องสู่ระดับ 103.9 จุด นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังถูกกดดันจากการพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของสกุลเงินฝั่งยุโรป นำโดย เงินยูโร (EUR) ที่ทยอยกลับมาแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.058 ดอลลาร์ต่อยูโร อีกครั้ง ตามความคาดหวังของตลาดต่อแนวโน้มการทยอยขึ้นดอกเบี้ยของ ECB อย่างไรก็ดี แม้ว่า เงินดอลลาร์จะมีการย่อตัวลง แต่ทว่าภาพรวมของตลาดที่เปิดรับความเสี่ยงและการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ก็ยังคงส่งผลให้ราคาทองคำรีบาวด์ย่อตัวลงใกล้ระดับ 1,825 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สอดคล้องกับมุมมองของเราที่ยังคงมองราคาทองคำแกว่งตัว sideways และยังขาดปัจจัยหนุนให้กลับมาเป็นขาขึ้นที่ชัดเจน

ตลาดทยอยเปิดรับความเสี่ยงคลายกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง

ตลาดการเงินโดยรวมทยอยเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น หลังเริ่มคลายกังวลแนวโน้มการเร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงของเฟด ฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ย่อตัวลง -0.72% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดตลาด -0.30% หลังนักลงทุนบางส่วนเริ่มขายทำกำไรการรีบาวด์อย่างรวดเร็วในสัปดาห์ที่ผ่านมา

หุ้นกลุ่มเทคฯ เช่น Amazon -2.8%, Alphabet (Google) -1.8% เพื่อรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ เช่น GDP, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค รวมถึง เงินเฟ้อ PCE ที่เฟดติดตาม พร้อมกับจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดอย่างใกล้ชิด เพื่อวิเคราะห์โอกาสที่เฟดจะเร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรง หลังจากที่รายงานข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดเริ่มสะท้อนภาพเศรษฐกิจชะลอลง

 ฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ยังคงปรับตัวขึ้น +0.52% นำโดยการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของหุ้นกลุ่ม Healthcare เช่น  Roche +2.1%, Novartis +1.8% ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงหนัก ทำให้ผู้เล่นในตลาดหันมาสนใจหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มี pricing power สูงและผลประกอบการทนทานต่อภาวะเศรษฐกิจ อย่าง กลุ่ม Healthcare มากขึ้น อย่างไรก็ดีในระยะสั้นผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) เพื่อรอประเมินแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของ ECB

ตลาดบอนด์ บอนด์ยีลด์โดยรวมปรับตัวผันผวน โดยบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ทยอยปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจนใกล้ระดับ 3.20% อีกครั้ง หลังจากที่รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุด อย่าง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน (Durable Goods Orders) ได้ปรับตัวขึ้น +0.7%m/m ดีกว่าคาด ในดือนพฤษภาคม สะท้อนภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังดูสดใส สอดคล้องกับมุมมองของประธานเฟดในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ผู้เล่นบางส่วนยังคงมองว่าเฟดยังสามารถเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยได้ตาม Dot Plot อย่างไรก็ดี เรามองว่า ผู้เล่นบางส่วนจะทยอยเข้าซื้อบอนด์ระยะยาวมากขึ้น โดยเฉพาะในจังหวะที่บอนด์ยีลด์มีการปรับตัวสูงขึ้นมาก หรือ รอจังหวะ Buy on Dip เพราะหากมีมุมมองว่า การขึ้นดอกเบี้ยของบรรดาธนาคารกลางอาจนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวหรือภาวะเศรษฐกิจถดถอยในกรณีเลวร้ายสุด บอนด์ยีลด์ระยะยาวก็จะสามารถทยอยปรับตัวลดลงได้ในที่สุด

ประเด็นติดตาม รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่าง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค Conference Board (Consumer Confidence) โดย ตลาดประเมินว่า ความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงหนักและเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย จากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟด จะกดดันให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ลดลงแตะระดับ 100 จุด ในเดือนมิถุนายน

รีวิว ORA Good Cat GT สปอร์ตอีวี เอาใจสายซิ่ง แรงขึ้นแต่งครบ

โควิดวันนี้ (28 มิ.ย.65) ติดเชื้อต่ำกว่า 2 พัน ปอดอักเสบเพิ่ม 638 ราย

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์


TOP หุ้น-การลงทุน

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ