ครบรอบ 25 ปี "ต้มยำกุ้ง" วิกฤติไม่ซ้ำรอย แต่ครั้งใหม่กำลังมา
ตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งหนัก ในครึ่งปีแรกรอบกว่าครึ่งศตวรรษ
ด้านตลาดหุ้นไทย หากนับตั้งแต่ต้นปี 2565 จนถีงช่วงครึ่งปี (30 มิ.ย.65) จะพบว่าเริ่มเข้าสู่แนวโน้มขาลง (ตลาดหมี) มาโดยลอด ผลรวม SET Index มีการปรับตัวลดลง -9.2% หรือ 145 จุด จากจุดสูงสุดของปีที่ 1,718.55 จนถึงระดับจุดต่ำสุดของปี 1,572.67 จุด ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวดัชนีมีการปรับตัวขึ้น-ลงแรง จำนวนหลายครั้งด้วยกัน คือ
วันที่ 27 ม.ค. – 17 ก.พ. ดัชนีปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดของปี อยู่ที่ 1,718.55 เพิ่มขึ้น +5.8% หรือ 100.6 จุด
วันที่ 17 เม.ย. – 8 มี.ค. ดัชนีปรับลดลง -8.71% หรือ 137.7 จุด อยู่ที่ 1,580.8
วันที่ 8 มี.ค. – 5 เม.ย. ดัชนีพลิกกลับตัวขึ้น +8.1% หรือ 128 จุด อยู่ที่ 1,708.89
วันที่ 5 เม.ย. - 13 พ.ค. ดัชนีปรับลดลง -8.2% หรือ 130.7 จุด อยู่ในระดับ 1,578.1
วันที่ 13 พ.ค.- 1 มิ.ย. ดัชนีพลิกกลับตัวขึ้น +5.5% หรือ 86.7 จุด อยู่ในระดับ 1,664.9
วันที่ 1 มิ.ย. – 17 มิ.ย. ดัชนีปรับลดลง -7.8% หรือ 120.6 จุด อยู่ในระดับ 1,544.2
จากข้อมูลข้างต้นสังเกตุได้ว่ากราฟ SET Index ได้มีการทำ Lower High (LH) และ Lower Low (LL) ซึ่งเป็นการแสดงถึงแนวโน้มขาลง
สำหรับมูลค่าการซื้อขายตามกลุ่มนักลงทุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่ 1 ม.ค. ถึง 30 มิ.ย. 2565 พบว่านักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 111,882.03 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 819.94 ล้านบาท แตกต่างจากสถาบันในประเทศที่ขายสุทธิมากสุด -87,902.97 ล้านบาท ตามาด้วยนักลงทุนในประเทศ ขายสุทธิ -24,799 ล้านบาท
ขณะที่ค่าเงินบาทมีแน้วโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง เพราะได้รับผลกระทบจากเงินดอลาร์แข็งค่า หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด (Fed) ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย โดย ณ วันที่ 2 ก.ค. 2565 อยู่ที่ระดับ 35.5 บาท หรืออ่อนค่าลง 19% จากช่วงต้นปี และถือเป็นการอ่อนมากที่สุดในรอบ 5 ปี
ทั้งนี้จากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าค่าเงินบาทกับ SET Index จะมีการเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างสัมพันธ์กัน เมื่อ SET Index ปรับตัวลดลง เงินบาทก็จะอ่อนค่าลงตามไปด้วย สังเกตได้จาก วันที่ 17 ก.พ. 65 SET Index ทำจุดสูงสุดของปีอยู่ที่ 1,718.55 จุด เงินบาทก็แข็งค่ามากสุด อยู่ที่ 32 บาท